พท.จี้เอาผิดกระทรวงมหาดไทยซื้อเครื่องอัลฟ่า 6

การเมือง
22 ก.พ. 53
03:25
85
Logo Thai PBS
พท.จี้เอาผิดกระทรวงมหาดไทยซื้อเครื่องอัลฟ่า 6

นายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำแผนการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดนเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันอังคารนี้ ก่อนจะประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการขณะที่โฆษกพรรคเพื่อไทย เตรียมรวบรวมหลักฐานยื่นเอาผิดกระทรวงมหาดไทยกรณีจัดซื้อเครื่องอัลฟ่า 6

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดจีที 200 หลังมีการตรวจสอบพบว่า เครื่องจีที 200 ไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งานพร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการจัดซื้อเครื่อง อัลฟ่า 6ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือในตระกูลเดียวกับเครื่องจีที 200 ว่ามีการจัดซื้อในราคาที่สูงผิดปกติ
โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คณะทำงานของพรรคได้รวบรวมหลักฐานการจัดซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการทุจริต โดยจะยื่นเอาผิดกับผู้บริหารและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ของกระทรวงมหาดไทย ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในสัปดาห์นี้
ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับการทำความเข้าใจในการใช้เครื่องจีที 200 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำแผนปฏิบัติการในการจัดส่งบุคลากรลงทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศให้ครม.รับทราบในการประชุมคณะรัฐมนตรี 23 ก.พ.นี้ เพื่อนำไปสู่การยกเลิกการใช้เครื่องมือดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า หากมีการสั่งห้ามการใช้งานเครื่องจีที 200 ในทันทีอาจจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง โดยการดำเนินการทั้งหมดต้องเป็นไปตามขั้นตอนเพื่อความเข้าใจร่วมกันของทุกฝ่าย
ด้านนายเจะอามิง โตะตาหยง ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ก.พ.นี้ กรรมาธิการฯจะเชิญตัวแทนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และสำนักงบประมาณ เข้าชี้แจงถึงผลการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่อง จีที 200 ว่าใช้งบประมาณๆไปเท่าใดและมีบริษัทใดเกี่ยวข้อง รวมถึงมีใครเป็นผู้ลงนามในการอนุมัติบ้างเพื่อเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริง
ขณะที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจีที 200 ก่อนหน้านี้ สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีต่อการใช้งานเครื่องจีที 200 พบว่า ร้อยละ 39.23 ยังสับสนว่าเครื่องนี้ใช้งานได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังเห็นว่ารัฐบาลและทหารให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันถึงร้อยละ 27.20
ขณะที่ประชาชนร้อยละ 52.38 เห็นว่า ไม่ควรใช้งานเครื่องนี้ต่อไป เพราะผลการทดสอบพบว่าไม่มีความแม่นยำมากเพียงพอ ส่วนประชาชนอีกร้อยละ 25.71 เห็นว่า ควรใช้งานต่อไป เพราะทหารยืนยันแล้วว่า เครื่องนี้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ประชาชนอีกร้อยละ 21.91 ยังไม่แน่ใจในการใช้เครื่องมือนี้


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง