เตรียมเปลี่ยนสถานะบ้านครูน้อยเป็นสถานสงเคราะห์
เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กเตรียมปรับเปลี่ยนสถานะสถานช่วยเหลือเด็กยากไร้บ้านครูน้อยให้เป็นสถานสงเคราะห์ เพื่อให้สามารถรับการสนับสนุนจากภาครัฐได้เต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาจะเข้าดำเนินการสะสางระบบบัญชีสถานเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อยในวันนี้เป็นวันแรก
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ในฐานะประธานแก้ไขปัญหาสถานช่วยเหลือเด็กยากไร้บ้านครูน้อย เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมแก้ปัญหาบ้านครูน้อย วันนี้ (25 ก.พ.) เจ้าหน้าที่อาสาจัดทำบัญชีจะเข้าไปดำเนินการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเงินของผู้บริจาค โดยได้วางกรอบการทำงานไว้ 3 ส่วน คือ ส่วนแรก จะเป็นการบริหารเงินบริจาค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ จะต้องแสดงถึงความโปร่งใสและให้ชุมชนร่วมรับทราบ โดยจะติดป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินที่จะปลดหนี้และเงินเพื่อเด็ก ส่วนที่ 2 จะเป็นการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแต่ละวัน ซึ่งในส่วนนี้จะตัดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อลดภาระของครูน้อย แต่จะต้องไม่กระทบต่อความเป็นอยู่ของเด็ก และส่วนที่ 3 เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแลเรื่องการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะดำเนินการวางระบบบัญชีให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดไว้ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน และจะเป็นแนวทางให้ชุมชนสามารถปฏิบัติต่อไปได้ แม้คณะกรรมการจะหมดอายุไปก็ตาม
ส่วนปัญหาหนี้สินที่เหลืออีกกว่า 5 ล้านบาทนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาขอลดยอดหนี้ลงอีก คาดว่าน่าจะเหลือประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถชำระหนี้ได้ครบในเร็วๆ นี้
ด้านนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติจะรอให้กระบวนการของครูหยุยจัดระบบบ้านครูน้อยให้เป็นไปตามกฎหมายก่อน จึงจะมีคณะอนุกรรมการอีกชุดหนึ่งเข้ามารับช่วงต่ออย่างถาวร และจะเปลี่ยนให้เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันบ้านครูน้อยไม่เข้าข่ายเป็นสถานเลี้ยงเด็กเอกชน จึงไม่สามารถตั้งเป็นมูลนิธิได้