เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมกล่าวย้ำให้ผู้ดำเนินการและลงชื่อยื่นเรื่องถอดถอนผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แสดงหลักฐานในข้อกล่าวหาให้ชัดเจน เพราะอาจถูกฟ้องดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาลได้เช่นกัน ขณะที่อดีต คตส.กล่าวยอมรับคำตัดสินคดีเป็นครั้งแรก หลังศาลพิพากษายึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท
หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. กล่าวว่า ยังเห็นควรยึดทรัพย์ตามข้อกล่าวหาที่ตั้งขึ้น 76,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ย้ำว่า คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีอำนาจรับช่วงในการดำเนินคดีต่อจาก คตส. แม้ทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เตรียมอุทธรณ์คดีก็ตาม
ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จะรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อยื่นเรื่องถอดถอนผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ทั้ง 9 คน
นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า แม้จะเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนพึงดำเนินการได้ แต่การถอดถอนต้องมีข้อกล่าวหาที่ให้ชัดเจน ซึ่งท้ายที่สุด หากการตรวจสอบไม่พบการกระทำตามข้อกล่าวหา ผู้ที่ดำเนินการและผู้ลงชื่อ อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้เช่นเดียวกัน
และมีรายงานว่า คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. มีมติให้สำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ แถลงข่าวกล่าวว่า ผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์รับสินบน เพื่อนำเสนอที่ประชุม ก.ต.พิจารณาดำเนินการในสัปดาห์หน้า