เบื้องหลังความสำเร็จประชุมมรดกโลก
หนึ่งในมติของคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่34 ที่เมืองบราซิเลียประเทศบราซิลได้เรียกร้องให้ทางกัมพูชาและไทย มีความร่วมมือกันมากขึ้นในเรื่องของปราสาทพระวิหารก่อนหน้าการประชุมครั้งที่35 ที่บาร์เรนห์ ซึ่งจะมีการนำแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารกลับมาหารืออีกครั้ง
มติดังกล่าวสท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจของคณะกรรมการต่อปัญหาขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาหลังปราสาทพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อวันที่ 7 กรกฏคม ปี 2551
มติมีขึ้นหลังจากที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เคลื่อนไหวตลอดการประชุมในช่วงแรก ทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมบราซิล นาย เฟร์เรร่า ที่ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการมรดกโลก รวมถึงกรรมการคนอื่นๆไม่ให้มีการรับรองแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา ที่มีการรุกล้ำแนวเขตแดนของไทย
ก่อนหน้าการประชุมที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่26 กรกฏาคมรัฐบาลไทยได้ส่งนายอัษฎา ชัยนาม อดีตทูตไทยประจำสหประชาชาติมาทำความเข้าใจกับประธานมรดกโลกชาวบราซิล
โดยเอกสารและภาพถ่ายการสะสมอาวุธของทหารกัมพูชาบนเขาพระวิหาร รวมถึงแผนที่ที่นายทหารในกองทัพเตรียมไว้ในการทำความเข้าใจกับคณะกรรมการมรดกโลกชาติอื่นๆ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเคลื่อนไหวของคณะผู้แทนไทยได้รับการขานรับจากหลายฝ่าย
รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายซกอัน หัวหน้าคณะผู้แทนกัมพูชาได้ทำงานอย่างหนักเช่นกันในการทำความเข้าใจกับกรรมการมรดกโลกทำให้ได้เสียงสนับสนุนจำนวนหนึ่งแต่ก็มีหลายฝ่ายรวมถึงประธานมรดกโลกที่เห็นว่า เวทีของการประชุมเรื่องมรดกโลกควรเป็นเวทีของความร่วมมือเพื่อประโยชน์มนุษยชาติ ไม่ใช่เวทีที่ใช้ขยายความขัดแย้งของประเทศสมาชิกที่จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร