ตำรวจเพิ่มกำลังคุมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์
การรวมตัวกันชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่แยกราชประสงค์ส่งผลให้การจราจรในบริเวณใกล้เคียง โดยขณะนี้แกนนำ และฝ่ายตำรวจกำลังเจรจาคลี่คลายด้วยการหาพื้นที่รองรับ ขณะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยเพิ่มกำลังตำรวจเป็น 15 กองร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่แยกราชประสงค์จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจเพิ่มกำลังจาก 5 กองร้อยเป็น 15 กองร้อย ขณะที่แกนนำพยายามประสานกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ตามปกติ
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ผู้นำการรณรงค์ครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ขึ้นรถเพื่อกระจายเสียงของตำรวจ เพื่อประชาสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ที่มีจำนวนมากขึ้น และชุมนุมล้ำเข้ามาในเส้นทางการจราจรฝั่ง ถ.ราชดำริ และพระราม 1 ให้กระจายตัวออกไปพื้นที่ด้านข้างจากแยกราชประสงค์มายังแยกประตูน้ำ และนำมวลชนส่วนหนึ่งให้มาอยู่บริเวณลานกว้างข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ หลังจากจำนวนผู้ชุมนุมทำให้การจราจรบริเวณราชประสงค์ฝั่งราชดำริ และพระราม 1 ติดขัดอย่างหนัก แต่มวลชนส่วนใหญ่ยังคงปักหลักชุมุนุมที่แยกราชประสงค์ต่อไป โดยมีบางส่วนเท่านั้นที่ตามนายสมบัติมาที่บริเวณลานกว้าง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายสมบัติได้นำมวลชนบางส่วนที่ไปวัดปทุมวนารามราชวรวิหารแล้ว แต่มวลชนกลุ่มนั้นก็กลับมาที่แยกราชประสงค์แล้ว
ด้านพล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าการจราจรบน ถ.ราชดำริ และพระราม 1 เคลื่อนตัวได้เหลือเะพียง 1-2 ช่องจราจร จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางแยกพญาไทไปใช้ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่แทน โดยจากผู้ชุมนุมที่มากขึ้น และไม่มีแกนนำควบคุมการชุมนุมอย่างเป็นทางการ ตำรวจจึงเพิ่มกำลังดูแลแยกราชประสงค์จากเดิม 5 กองร้อยเป็น 15 กองร้อย และจัดกำลังเสริมในทมี่ตั้งอีก 10 กองร้อย ซึ่งจะใช้ตำรวจปราบจลาจล และตำรวจจราจร พร้อมจัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบคอยตรวจตรารถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน และสกายวอล์ค เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีนำเอาอาวุธมาในที่ชุมนุม โดยเบื้องต้นยังมั่นใจว่าการชุมนุมในวันนี้จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ตำรวจยืนยันว่าได้ประสานกับแกนนำของผู้ชุมนุมแล้วว่าการชุมนุมในวันนี้จะยุติลงภายในเวลา 19.30 น.เท่านั้น โดยล่าสุดแกนนำเลิกที่จะรณรงค์เกี่ยวกับพื้นผิวจราจรแล้ว เพียงแต่การจราจรยังเปิดได้เพียง 1-2 ช่องจราจร