“ปองพล” ตั้งเป้าเรียนรู้การทำธุรกิจจากครอบครัว
ปองพล กุลชัยรัตนา นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ชุดเอเชี่ยน เกมส์ ที่วางแผนไว้ว่า จะเรียนรู้การทำธุรกิจจากครอบครัว เพื่อไปประกอบธุรกิจของตนเองในอนาคต หลังจากเรียนจบและไม่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ
ปองพล กุลชัยรัตนา หรือ ซัน นักกีฬายิงปืน อนาคตไกลของทีมชาติไทย เป็นนักกีฬาอีกคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เนื่องจาก เขาได้วางแผนที่จะมีธุรกิจส่วนตัว หลังจากสิ้นสุดการเป็นนักกีฬา ตามแผนการเรียนที่ได้ศึกษามาในสาขาบริหารธุรกิจ
ทีมข่าวของเราตาม ปองพล ไปดูชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบัน ปองพล ศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยบุคลิกภาพที่เป็นคนมุ่งมั่น ทำให้บ่อยครั้งเราจะเห็น ปองพล เป็นเหมือนผู้นำในกลุ่มเพื่อนๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงานกลุ่ม หรือ การทำกิจกรรมของคณะ แม้ว่าจะเป็นนักกีฬาทีมชาติที่มีคนรู้จักมาก แต่ชีวิตอีกมุมของ ปองพล ก็เป็นคนที่รักความสนุกสนาน ซึ่งจะเห็นได้จากการใช้เวลาอยู่ในมหาวิทยาลัย ร่วมกับกลุ่มเพื่อนสนิทอีก 5 คน ที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน
จากชีวิตในมหาวิทยาลัย เราตาม ปองพล ไปยังสนามยิงปืน ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านพัก ย่านบางบัวทอง ซึ่งนี่คือธุรกิจหลักของครอบครัว และสนามยิงปืนแห่งนี้เอง เป็นสถานที่ ที่ทำให้ ปองพล เรียนรู้วิธีในการบริหารธุรกิจ
จากการที่ครอบครัว กุลชัยรัตนา ชื่นชอบและรักในกีฬายิงปืน ทำให้สนามยิงปืนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักของคนในวงการยิงปืนมากว่า 10 ปี และเป็นจุดที่หลอมความคิดของ ปองพล ว่าสักวันต้องก้าวขึ้นมาบริหารงานธุรกิจส่วนตัว เหมือนอย่างที่ผู้ปกครองได้ทำไว้เป็นตัวอย่าง
ส่วนมุมมองของ วรพล กุลชัยรัตนา บิดาของปองพล และเป็นนักกีฬาทีมชาติร่วมกัน กล่าวว่า เห็นด้วยกับสิ่งที่ ปองพล พยายามเรียนรู้และมองไปยังอนาคต เพื่อทำธุรกิจรองรับหลังจากเรียนจบ เพราะปัจจุบัน การเป็นนักกีฬาในประเทศไทย ยังยึดเป็นอาชีพไม่ได้
ปาลิดา กุลชัยรัตนา มารดาของปองพล กล่าวว่า ปองพล มักจะมีความคิดและความเห็นที่เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ และมักจะมีทัศนาคติที่ดีและมองถึงเรื่องอนาคตอยู่เสมอ รวมถึงเป็นคนที่จัดการกับปัญหาด้วยตนเอง จนไม่ต้องเดือดร้อนผู้ปกครอง ส่วนในเรื่องของกีฬา ยอมรับว่า ดีใจที่ลูกประสบความสำเร็จขึ้นระดับเป็นทีมชาติ
ตอนนี้ ปองพล และคุณพ่อ คือ วรพล กุลชัยรัตนา ต่างมุมมั่นในการฝึกซ้อมร่วมกันอยู่ภายในสนามยิงปืนของ สมาคมยิงปืน ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยทั้งคู่มีภาระกิจในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน เกมส์ อีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่ง ปองพล เองก็มีคุณพ่อเป็นคนช่วยเรื่องการบริหารเวลาซ้อม และเรียน โดยจะแบ่งเวลาเป็นซ้อม 5 วันเต็ม และเรียนอีก 2 วัน ซึ่งตารางแบบนี้ก็เหมาะสมกับการเรียนในปีสุดท้าย ที่เหลือวิชาเรียน ไม่มาก
แม้ว่าจะต้องเดินทางวันละเกือบ 150 กิโลเมตร จากบ้านพักย่ายบางบัวทอง ไปการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก เพื่อไปฝึกซ้อม แต่ทั้งปองพล และคุณพ่อต่างไม่เคยท้อ เพราะหวังว่าหากปองพล ประสบความสำเร็จใน เอเชี่ยน เกมส์ ครั้งนี้ จะเป็นกุญแจ ในการต่อยอดไปถึงกีฬาโอลิมปิก ที่ถือเป็นจุดสุดยอดในเส้นทางของนักกีฬาทุกคน