ก.เกษตรฯประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม

ก.เกษตรฯประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมเบื้องต้น พบว่า เกษตรกรเดือดร้อนกว่า 200,000 ราย พื้นที่เสียหายเกือบ 2,000,000ไร่ โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลกยังมีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง

ชาวหมู่ 2 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลกช่วยกันกำจัดตะขาบขนาดใหญ่ ที่หนีน้ำมาอาศัยอยู่ภายในบ้าน เนื่องจากเกิดน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง โดยสำนักงานชลประทานจ.พิษณุโลก ระบุว่า ระดับน้ำจะยังสูงขึ้นอีกเพราะน้ำจาก จ.สุโขทัยและ กำแพงเพชรยังไหลบ่าลงมา

บางพื้นที่ในจ.พิจิตร นครสวรรค์ และจ.สุโขทัย ชาวบ้านยังเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมขัง โดยขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและห้องสุขา ขณะที่บางพื้นที่น้ำเริ่มเน่าชาวบ้านเกรงจะเกิดโรคระบาด

ส่วนอ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วมซ้ำซาก ชาวนาบางราย ต้องเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด แม้จะได้ราคาเพียงเกวียนละ 3,000 บาท

ขณะที่น้ำป่าไหลท่วมหมู่ที่ 1 ต.ดอนแสลบ และ หมู่ที่ 17 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรีระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังโดยชาวบ้านอ้างว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบ

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมจะสำรวจได้ชัดเจนหลังน้ำลดโดยรายงานล่าสุดพบว่า มี 44 จังหวัดที่ประสบภัยด้านการเกษตร มีเกษตรกรเดือดร้อนประมาณ 210,000ราย พื้นที่เสียหาย 1,900,000 ไร่ โดยเบื้องต้นจะใช้เงินทดลองราชการของกระทรวงการคลังช่วยเหลือ แต่จะหารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้เงินที่ระบุว่าต้องใช้ภายใน 3 เดือนขยายเป็น 6 เดือน

โดยจะขอใช้งบกลางจากรัฐบาลด้วยซึ่งหลังจากนี้จะให้กรมชลประทานแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม เช่น จ.พิษณุโลก สุโขทัย และ พระนครศรีอยุธยาโดยให้ทำระบบผันน้ำการปรับปรุงลำน้ำ และ การเก็บกักน้ำเพื่อแก้ไขในระยาวต่อไป