ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องอดีตผอ.รพ.วชิรปราการในคดีขโมยไต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องอดีตนายแพทย์โรงพยาบาลวชิรปราการ คดีฆ่าคนตายโดยเจตนากรณีขโมยผ่าตัดไต ของคนไข้สองรายไปขาย โดยศาลเห็นว่า การกระทำของจำเลยและพวกรวม 4 คนไม่เป็นการกระทำผิดเนื่องจากคนไข้เสียชีวิตก่อนที่จะผ่าตัดเอาอวัยวะออกจากร่างกาย
นพ.สิโรจน์ กาญจนปัญจพล อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรปราการ จังหวัดสมุทรปราการในฐานะจำเลยที่ 1 พร้อมจำเลยอีก 3 คนซึ่งเป็นแพทย์และอดีตผู้จัดการโรงพยาบาลวชิรปราการเดินทางมายังศาลอาญารัชดาภิเษกเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนพ.สิโรจน์ และพวกรวม 4 คนในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาปลอมและใช้เอกสารปลอม กรณีที่โจทก์ระบุว่า จำเลยได้ร่วมกันปลอมเอกสารหนังสืออุทิศอวัยวะของน.ส.ลัดดา และนางนาง นงค์พรมมา พร้อมร่วมกันผ่าตัดเอาไต และ ตับ ของคนไข้ทั้งสองออกไป ขณะที่คนไข้ยังไม่ถึงแก่ความตาย เมื่อปี 2540
ทั้งนี้จากการพิเคราะห์พยานหลักฐาน และ สำนวนตามศาลชั้นต้น ศาลเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดจึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือพิพากษายกฟ้อง
สำหรับคำสั่งศาลชั้นต้นที่พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากการสืบพยานโจทก์ที่เบิกความมาต่างเป็นแพทย์ และ พยาบาลที่ตรวจร่างกายของคนไข้ทั้งสองคน ที่เบิกความตามข้อเท็จจริงจากการปฏิบัติหน้าที่และให้ความเห็นตามหลักวิชาทางการแพทย์ จึงมีน้ำหนักรับฟังว่า ก่อนถูกผ่าตัดไตออกไปคนไข้ทั้งสองรายประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรง แพทย์ตรวจพบว่า ฐานสมองแตกหักทำให้แกนสมองเคลื่อนไปมีผลทำให้คนไข้แกนสมองตายไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
ซึ่งการตรวจคนไข้ถือเป็นการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศของแพทยสภา และแม้หัวใจยังเต้นอยู่ แต่ก็อาศัยเครื่องช่วยหายใจไม่ได้เต้นเองตามธรรมชาติ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า คนไข้ทั้งสองรายนี้ถึงแก่ความตายก่อนที่จะมีการผ่าตัดนำอวัยวะซึ่งเป็นไตและตับออกไป ส่วนคดีปลอดแปลงเอกสารบริจาคอวัยวะศาลเห็นสมควรยกประโยชน์ให้จำเลยเนื่องจากพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก
หลังศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นจำเลยทั้ง 4 คน มีสีหน้ายิ้มแย้มและครอบครัว ญาติได้แสดงความยินดี อย่างไรก็ดีฝ่ายโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้