ระเบิด 4 จุดใน กทม.

26 ก.ย. 53
20:00
86
Logo Thai PBS
ระเบิด 4 จุดใน กทม.


เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นรายวัน ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องเรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์และการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่สนามม้านางเลิ้ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากทำเนียบรัฐบาล และบ้านพิษณุโลก จากการสืบสวนของตำรวจล่าสุดสันนิษฐานว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่หน้าสนามม้านางเลิ้ง น่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มเดียวกัน กับที่ลอบวางระเบิดที่กระทรวงสาธรณสุข ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลงามวงศ์วาน และหน้าโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัยก่อหน้านี้
เหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 วันที่ผ่านมา โดยจุดแรกเกิดขึ้นกลางดึกคืนวันที่ 22 กันยายน ที่สุภาวดีทาวเวอร์ ซอยชุมชนมิตรอนันต์ เขตดุสิต มีรถยนต์เสียหาย 1 คัน ถัดมาเพียง 2 วัน เกิดระเบิดขึ้นภายในชุมชนซอยจตุรมิตร ถนนพระราม 3 ซอย 29 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ห่างกันเพียง 6 ชั่วโมงก็เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ภายในซอยชักพระ 16 ย่านตลิ่งชัน ล่าสุดเมื่อคืนเกิดเหตุระเบิดที่ใต้สะพานลอยหน้าสนามม้านางเลิ้ง

โดยคนร้ายใช้ถังน้ำยาแอร์เป็นตัวบรรจุส่วนประกอบของระเบิด ภายในบรรจุปุ๋ยยูเรีย น้ำมัน และใส่ท่อพีวีซีที่ใส่ดินดำไว้ แล้วจุดชนวนด้วยธรรมดา เมื่อไฟลามไปถึงดินดำทำให้เกิดระเบิด ซึ่งคล้ายคลึงกับระเบิดที่พบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และพื้นที่นครบาลพญาไทวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา สบ.10 เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนทั้งในพื้นที่นครบาลนางเลิ้ง พญาไท และตำรวจภูธรนนทบุรี เพื่อนำส่วนประกอบระเบิดแต่ละแห่งมาเปรียบเทียบ หาความเชื่อมโยง โดยระบุว่า เหตุระเบิดทั้งหมดที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากฝีมือของคนร้ายกลุ่มเดียวกัน

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับ ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบเรื่องอาวุธตั้งแต่ต้นทาง

สำหรับความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายที่ลอบวางระเบิด 3 จุด ที่สุภาวดีทาวเวอร์, ถนนพระราม 3 ซอย 29 และตลิ่งชัน อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งบางจุดพบผู้ต้องสงสัยแล้ว ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งเงินรางวัลนำจับ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง