ประท้วงแผนใช้มาตรการรัดเข็มขัดทั่วยุโรป
เกิดการประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดที่สหภาพยุโรปเสนอให้นำเข้ามาใช้กับประเทศสมาชิกที่บริหารจัดการงบประมาณแผ่นดินจนเกิดหนี้ท่วมตัว ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีประเทศใดตกอยู่ในภาวะใกล้ล้มลายเหมือนกรีซอีก
สมาชิกสหภาพแรงงานในเบลเยี่ยมนับแสนคนเดินขบวนไปประท้วงที่หน้าสำนักงานสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซล จนเกิดการกระทบกระทั่งกันบ้างประปรายกับตำรวจ แต่ก็ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ประท้วงไปประมาณ 150 คน
ในสเปน เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อกลุ่มวัยรุ่นฉวยโอกาสปล้นสดมภ์ร้านค้าในเมืองบาร์เซโลน่า ขณะที่การเดินขบวนประท้วงในกรุงแมดริด ล่าสุดมีรายงานว่าเกิดการปะทะและมีการเผารถยนต์ตำรวจ โดยถือเป็นการผละงานประท้วงครั้งแรกในรอบ 8 ปีของสเปน
นอกจากนี้ก็ยังมีการประท้วงในฝรั่งเศส กรีซ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ แลตเวีย และคาดว่าจะติดตามมาอีกหลายประเทศ
สาเหตุของการประท้วงครั้งนี้เกิดจากการที่สหภาพยุโรปเสนอให้นำมาตรการลงโทษมาบังคับใช้กับประเทศสมาชิกที่ใช้งบประมาณแผ่นดินจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่มีเหตุการณ์เหมือนในกรีซที่ตกอยู่ในภาวะใกล้ล้มลาย
มาตรการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นเสนอ แต่ก็สร้างความแตกแยกให้กับ 27 ประเทศสมาชิก EU เป็นอย่างมาก โดยเยอรมนีเห็นดีด้วยกับมาตรการนี้ ที่จะบังคับให้ประเทศที่ปล่อยให้มีหนี้สินรุงรังต้องกันเงินร้อยละ 0.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มาจัดตั้งเป็นงบประมาณสำรองพิเศษไว้ ขณะที่ฝรั่งเศสคัดค้าน
ทั้งนี้ผู้ประท้วงในทุกประเทศที่มาจากสหภาพแรงงานต่างประท้วงว่า ทำไมพวกเขาจะต้องมารับกรรมที่ก่อไว้โดยบรรดาธนาคารและพ่อค้าด้วย เพราะคาดว่าจะต้องมีการลดเงินเดือนและค่าจ้าง รวมทั้งอาจถึงขั้นต้องตกงาน