ตัวอย่างหนังสือต้องห้ามของสหรัฐฯ

ตัวอย่างหนังสือต้องห้ามของสหรัฐฯ

แม้จุดประสงค์เพื่อการป้องกันเยาวชนจากหนังสือที่ไม่เหมาะสม แต่การเซ็นเซอร์หนังสือในชุมชนของสหรัฐฯ กำลังสร้างวิจารณ์จากชาวอเมริกันอย่างแพร่หลาย และนี่คือตัวอย่างหนังสือที่ไม่น่าเชื่อว่าถูกขึ้นบัญชีหนังสือต้องห้ามจากการวบรวมโดยสมาคมห้องสมุดอเมริกัน
ทอม ซอว์เยอร์ ผจญภัย และ ฮัคเคิลเบอรี่ ฟินน์ ผจญภัย ผลงานของ มาร์ค ทเวน บิดาวรรณกรรมอเมริกา เป็นหนึ่งในหลายงานเขียนโด่งดังที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นหนังสือมีปัญหาหรือ challenged books บ่อยครั้งในสหรัฐฯ เนื่องจากประเด็นสีผิวในเล่ม เช่นเดียวกับผลงานยิ่งใหญ่ของ เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ ที่ในบรรดางานเขียนบรรลือโลกทั้ง 4 เล่มของเขา มีเพียง เฒ่าผจญทะเล ที่รอดพ้นจากการกล่าวหาว่าเป็นหนังสือที่ไม่เหมาะสม ตามกระบวนการแบน และขึ้นบัญชีหนังสือมีปัญหาโดยตัวแทนของชุมชนในสหรัฐฯ

ผลงานที่ถูกขึ้นบัญชีหนังสือมีปัญหาบ่อยที่สุดคือ Harry Potter ในข้อกล่าวหาว่านำเสนอไสยศาสตร์, ลัทธิซาตาน, ความรุนแรง และต่อต้านสถาบันครอบครัว แม้แต่งานต้นแบบอย่าง The Lord of the Rings ยังเคยถูกนำมาเผาทิ้งหน้าโบสถ์เมืองอลาโมกอร์โด้ รัฐนิวเม็กซิโอเมื่อปี 2001 ในฐานะงานเขียนที่ชั่วร้าย

แม้แต่งานเขียนเชิงวิชาการล้วนๆ อย่างพจนานุกรมก็ไม่รอดพ้นจากการถูกแบน ทั้ง American Heritage Dictionary ที่ถูกถอดจากห้องสมุดเมือง เอลดอน รัฐมิสซูรี่เมื่อปี 1978 เพราะเห็นว่ามีคำไม่เหมาะสม 39 คำ ขณะที่พจนานุกรม Merriam Webster Collegiate Dictionary ก็เคยถูกแบนจากโรงเรียนในเมือง เมนนิฟี รัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากความผิดที่ให้คำจำกัดความเรื่องเพศชัดเจนเกินไป

วรรณกรรมเยาวชนมักจะเป็นผลงานแรกๆ ที่ตกเป็นเป้าถูกแบน ทั้งงานที่มีชื่อเสียง ของ โรอัลด์ ดาห์ล ที่ถูกข้อหาแม่มดใน The Witches หรือเสนอภาพเด็กหัวรั้น ใน James and the Giant Peach และเมื่อต้นปี คณะกรรมการการศึกษาของเท็กซัสกลายเป็นข่าวเมื่อทำการแบน Brown Bear, Brown Bear, What Do You See? หนังสือเด็กอนุบาลของ บิล มาร์ติน เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเป็นงานเขียนของ บิล มาร์ติน นักปรัชญาแนวมาร์กซิสต์