ดีเอสไอพร้อมรับคดีระเบิดสมานแมนชั่นเป็นคดีพิเศษ
ดีเอสไอเตรียมรับคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นเป็นคดีพิเศษหลังตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดอย่างน้อย 4 คดี ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางไปรับศพแล้วที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ
น.ส.ทัศนีย์ เจริญลาภ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่อาคารสมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง เดินทางเข้ารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปพิธีทางศาสนาที่บ้านในจ.จันทบุรีแล้ว โดยแพทย์ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า สมองและอวัยวะถูกทำลายจากแรงระเบิด
ส่วนศพของนายสมัย วงศ์สุวรรณ เจ้าของห้องหมายเลข 202 ที่เกิดเหตุระเบิดยังไม่มีญาติมาติดต่อขอรับศพ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าสมองและอวัยวะ แขน ขา ถูกทำลายอย่างมากจากแรงระเบิด
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมอบหมายให้พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายประสานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โอนคดีนี้เป็นคดีพิเศษหลังพบว่า เหตุระเบิดเชื่อมโยงกับคดีลอบวางระเบิดป่วนเมืองอย่างน้อย 4 แห่ง คือ ที่หน้าโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กระทรวงสาธรณสุข เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และสนามม้านางเลิ้ง
สอดคล้องกับข้อมูลในการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดสมานเมตตาเเมนชั่น ที่พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณอยุธยา ว่าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นอกจาก 4 จุดใหญ่ที่พบความเชื่อมโยงก่อนหน้านี้ ยังได้ข้อมูลหลักฐานมาเชื่อมโยงกับคดีระเบิดเพิ่มอีก 3 คดีที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน คือ ที่หน้าบริษัททีโอที บริเวณกองขยะในพื้นที่นครบาลนางเลิ้ง เมื่อวันที่ 3 เมษายน และที่หน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 6 เมษายน
ทั้งนี้ยังพบว่า พยานหลักฐานทั้งหมดทำให้ทราบตัวละครที่เกี่ยวข้องกับห้องเกิดเหตุ อีก 4-5 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ากลุ่มบุคคลทั้งหมดเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน หรือการประกอบระเบิด โดยเบื้องต้นจะนำไปวิเคราะห์กับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอาคารสมานแมนชั่น พร้อมกับเก็บชิ้นเนื้อบางส่วน เศษอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดรวมทั้งเอกสารบางอย่างที่คาดว่า จะเชื่อมโยงกับตัวนายสมัย และเข้าตรวจสอบสถานีวิทยุบางบัวทอง ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไปก่อนจะเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าต้องต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินในกรุงเทพและปริมณฑลเพราะกรุงเทพเป็นศูนย์กลาง และเป็นเป้าหมายของการก่อความไม่สงบรวมทั้งพื้นที่ปริมณฑลอย่าง นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการทำให้ต้องคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เพื่อรักษาพื้นที่