เลขาฯสภายัน “วสา”ไม่ได้เป็นข้าราชการรัฐสภา
ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎรรับมีเจ้าหน้าที่ในกรรมาธิการโอนเงินให้ “กษิ” ผู้ต้องหาคดีระเบิดจริง ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยืนยันไม่ได้เป็นข้าราชการรัฐสภา
ตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงกรณีชุดสืบสวนคดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่นย่านบางบัวทองพบหลักฐานการโอนเงินของนายกษิ ดิฐธนรัชต์ นักธุรกิจค้าปุ๋ยยูเรียข้ามชาติ ผู้ต้องหาคดีระเบิดมีความเชื่อมโยงกับน.ส.วสา เทพเรียน ซึ่งทำงานอยู่ในคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าน.ส.วสาไม่ได้เป็นข้าราชการรัฐสภาแต่เป็นผู้รับเงินค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ให้คณะกรรมาธิการฯ ขณะที่น.ส.วสายังคงทำหน้าที่ตามปกติจนกว่าจะพบว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสื่อมเสียจริง จึงจะถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ ยอมรับว่าเป็นผู้เสนอชื่อน.ส.วสาเป็นเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ เนื่องจากสนิทสนมและยังเป็นเพื่อนของบุตรสาว ขณะที่ต้องการให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับน.ส.วสาเพราะยังไม่มีหลักฐานใดยืนยันว่าพัวพันกับเหตุระเบิด เพียงแต่ยอมรับว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการโอนเงินให้นายกษิเท่านั้น ทั้งนี้นายวิสุทธ์เองเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อที่ถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินอยู่และ เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มนปช.ที่จังหวัดพะเยา
ขณะที่ที่ประชุมวุฒิสภาหารือกรณีเกิดเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นโดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เรียกร้องให้สภาฯเร่งตรวจสอบและให้ความร่วมมือกับตำรวจกรณีจากเจ้าหน้าที่ในกรรมาธิการพัวพันกับคดีระเบิด ขณะที่นายตวง อันทะไชย เสนอให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการแก้ไขปัญหาระเบิดแห่งชาติอย่างเร่งด่วน
ด้านนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการกับผู้ที่ก่อความรุนแรงได้ อีกทั้งยังมีการละเมิดสิทธิผู้อื่น และเป็นการท้าทายให้กลุ่มเคลื่อนไหวใช้ความรุนแรงตอบโต้มากขึ้น