DSI เปิดข้อมูลฝึกกองกำลังแนวร่วมนปช.
อักษรภาษาอังกฤษ ระบุชื่อ รหัส และวันที่ ที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อ้างว่าเป็นเอกสารประจำตัวของอาสาสมัครแนวร่วม นปช. ที่เข้าไปฝึกอาวุธกับกองกำลังทหาร ในประเทศกัมพูชา เพื่อจุดประสงค์เข้ามาก่อความวุ่นวาย และลอบทำร้ายบุคคลสำคัญทางการเมือง
พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน พนักงานสอบสวนพิเศษ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า แนวร่วม 11 คนที่ถูกควบคุมตัวได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ยอมเปิดเผยข้อมูล ยุทธวิธีการฝึกกองกำลังติดอาวุธ โดยระบุว่ามีอาสาสมัครแนวร่วม นปช. ที่เข้าไปฝึกอาวุธกับกองกำลังทหาร ในประเทศกัมพูชา เพื่อจุดประสงค์เข้ามาก่อความวุ่นวาย และลอบทำร้ายบุคคลสำคัญทางการเมือง ซึ่งข้อมูลการสอบสวน ระบุว่า กองกำลังทั้ง 11 คน เคยเป็นการ์ด และแนวร่วมที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ช่วงเหตุความวุ่นวายทางการเมือง หลังยุติการชุมนุม น.ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม กลุ่มคนรักษ์เชียงใหม่ 51 ได้ติดต่อหาอาสาสมัคร ผ่านผู้ประสานงานแนวร่วม นปช.ในภาคต่างๆ
เมื่อได้อาสาสมัครครบ 39 คน โดย 1 ในนี้ คือ นายมงคล สารพันธ์ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอตามตัว เข้ารับการฝึกที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยจะแบ่งการเดินทางใน 3 เส้นทาง คือกรุงเทพมหานคร ไปทางช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ , กรุงเทพ ผ่านโคราช มุ่งหน้าจังหวัดสุรินทร์ และเส้นทางสุดท้ายกรุงเทพ ผ่านเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เข้าประเทศกัมพูชาทางจังหวัดสระแก้ว ละ ระหว่างการฝึก แนวร่วมจะได้ค่าตอบแทน 3,000-4,000 บาท หลังฝึกเสร็จจะได้รับเพิ่มอีก 20,000 บาท โดยมีนายเพชรวัฒน์ วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำ นปช. เป็นผู้อนุมัติเงินจำนวนทั้งหมด ก่อนเดินทางกลับเข้ามาทางอำเภอช่องจอม 35 คน เนื่องจากนายมงคล และเพื่อนอีก 3 คน ต้องเป็นทีมงานให้นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีก่อการร้าย ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี
จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยทั้งหมด ทำให้ดีเอสไอกังวลว่า แนวร่วมที่เข้ารับการฝึกที่ยังไม่สามารถติดตามตัวมาได้อาจมีการวางแผนก่อเหตุความวุ่นวายอยู่ เพราะในหลักสูตรการฝึกทราบว่า แผนการลอบทำร้ายบุคคลทางการเมือง โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีการนำแผนที่บ้านของนายสุเทพ เข้ามาอยู่ในยุทธวิธีการฝึกด้วย หลังมีหน่วยงานความมั่นคงออกมาระบุถึงการลอบทำร้ายบุคคลสำคัญ ทำให้การดูแลรักษาความยืนยันในขณะนี้มีการปรับแผนดูแลขั้นสูงสุด