กรมชลฯ คาดวันนี้น้ำท่วมสิงห์บุรี-ขอนแก่น
สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย เพราะไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม แต่หลายจังหวัดบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี กำลังจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากน้ำที่เขื่อนเร่งระบายออก
ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ กำลังได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักในจังหวัดตากและจังหวัดกำแพงเพชรที่อยู่ใต้เขื่อน ส่งผลกระทบให้ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์มีน้ำเพิ่มขึ้น และเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทต้องระบายน้ำวินาทีละ 2,908 ลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระราม 6 ก็มีการระบายน้ำรวม 3,655 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทำให้กรมชลประทานคาดว่า ในวันนี้ (22 ต.ค.) น้ำจะท่วมมากขึ้นที่จังหวัดสิงห์บุรีใน 3 อำเภอ คือ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง และอำเภอพรหมบุรี จากนั้นก็จะไหลเข้าท่วมจังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี รวมทั้งกรุงเทพฯ ภายใน 2 วันหลังจากนี้
ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ต้องเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 23-27 ต.ค.นี้ ซึ่งข้อมูลจากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ระบุว่า น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดที่ 3.12 เมตร วันที่ 26 ต.ค.นี้
ส่วนลุ่มน้ำชี สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเพราะจังหวัดชัยภูมิที่เป็นต้นน้ำชี ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ทำให้น้ำที่ท่วมเริ่มลดระดับลงประมาณ 20 เซนติเมตร แต่เขื่อนจุฬาภรณ์ยังคงต้องระบายน้ำที่ล้นอ่าง วันละกว่า 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำที่ระบายลงมา เมื่อรวมกับน้ำในลุ่มน้ำชี ที่ยังคงมีระดับน้ำสูง ทำให้ทุกอำเภอของจังหวัดชัยภูมิยังมีน้ำท่วมต่อไป คาดว่าจะระบายออกจากอำเภอเมืองได้หมดภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนอำเภออื่นๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน จึงจะระบายน้ำได้หมด
ขณะที่ในวันนี้ (22 ต.ค.) 6 อำเภอในจังหวัดขอนแก่น คือ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอแวงน้อย อำเภอชนบท อำเภอบ้านแฮด และอำเภอเมืองบางส่วนที่อยู่ติดกับลำน้ำชี ต้องเฝ้าระวังน้ำจากลำน้ำชีที่จะล้นตลิ่ง ก่อนที่จะไหลเข้าท่วมจังหวัดมหาสารคามต่อไป
ส่วนลำน้ำมูลก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะในวันนี้ (22 ต.ค.) น้ำที่ระบายมาจากเขื่อนลำตะคองและเขื่อนลำพระเพลิงส่งผลให้อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มีน้ำท่วมสูงขึ้น คาดว่าสูงสุดที่ประมาณ 1.50 เมตร จากนั้น ภายใน 3-5 วัน ก็จะไหลเข้าท่วมอำเภอชุมพวง อำเภอเมืองยาง และอำเภอลำทะเมนชัย ก่อนจะไหลเข้าท่วมจังหวัดบุรีรัมย์ในทุกอำเภอที่แม่น้ำมูลไหลผ่าน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างและภาคตะวันออกให้ระวังภาวะน้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่ตกหนัก โดยระบุว่า กลุ่มเมฆฝนจะเคลื่อนตัวไปทางภาคใต้ ซึ่งคาดหมายว่า ปีนี้ฝนจะตกหนักกว่าทุกปี และมีลมพัดแรง แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเหมือนจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดลพบุรี เนื่องจากภาคใต้มีพื้นที่แคบ และทั้ง 2 ฝั่งเป็นทะเล จึงสามารถระบายน้ำได้เร็วกว่า