นายกฯยืนยันว่าสมเด็นฮุนเซน เข้าใจกรณีร่างบันทึกข้อตกลงจีบีซีที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ขณะที่ในนี้จะมีการประชุมร่วมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงกลาโหมไทยเป็นเจ้าภาพ
พล.อ.เตียบัณห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เดินทางมาไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ในวันนี้ (30ต.ค.) ด้านพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุว่าการประชุมจีบีซีครั้งนี้เป็นการหารือแนวทางการแก้ปัญหาความมั่นคงทางด้านทหารร่วมกัน ส่วนการที่จะมีการกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านการผ่านความเห็นชอบในการบันทึกลงนามความร่วมมือไทย-กัมพูชา หรือ เอ็มโอยู 2543 คงต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสุริยะใส กตะศิลา และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้ไปร้องต่อศาลปกครองให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อบรรเทาทุกข์กรณีรัฐบาลนำบันทึก เอ็มโอยู 2543 เข้าสู่การประชุมของรัฐสภา และขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามนำบันทึกดังกล่าวไปใช้ นอกจากนี้ยังได้ฟ้องร้องนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับคณะรัฐมนตรีจากการปฎิบัติหน้าที่ที่มีผลเสียหายต่อประเทศ และยืนยันว่าจะยังชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยจะทำตามกรอบของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ ร้องต่อศาลปกครองแล้ว โดยไม่ได้กังวลอะไรและยังเปิดเผยถึงการหารือระดับทวิภาคีกับ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่ามีความก้าวหน้าทั้งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความเป็นไปได้ในการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังทบทวนสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทั้งหมด โดยคำนึงถึงบันทึกเอ็มโอยู ปี 2543 ส่วนร่างบันทึกข้อตกลง คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภานั้น สมเด็จฮุนเซน เข้าใจเพราะเป็นกระบวนการภายในของรัฐสภาไทย รวมทั้งยังได้หารือถึงกระแสข่าวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ผู้ต้องหาก่อการร้ายที่หลบหนีอยู่ในกัมพูชา ซึ่งสมเด็จฮุนเซน ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนส่งตัวมาดำเนินคดี หากได้รับข้อมูลการประสานงานจากหน่วยงานของรัฐบาลไทย