“กัมพูชา”ไม่ชี้แจงเรื่องข่าวกลุ่มฝึกอาวุธในประเทศ
รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธที่จะชี้แจงข่าวกลุ่มบุคคลเข้าฝึกอาวุธในประเทศ หรือการให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย แต่ย้ำถึงความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีหลังลงนามความร่วมมือในระดับจีบีซี รวม 15 เรื่อง
หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมดุสิต เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย และ พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ในฐานะประธานการประชุมของ 2 ประเทศ แถลงสรุปผลความร่วมมือระหว่างประเทศ รวม 15 ประเด็น โดย 1 ใน 15 เรื่อง คือความร่วมมือที่จะต่อต้านการก่อการร้าย
แต่จากการซักถามของสื่อมวลชนถึงกรณีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช.ในฐานะผู้ต้องคดีก่อการร้ายที่มีกระแสข่าวการหลบหนีเข้ากัมพูชาหรือต่อข้อซักถามกรณีข่าวกลุ่มบุคคลที่เข้าฝึกอาวุธในกัมพูชานั้นพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธที่จะชี้แจงรายละเอียด และอ้างถึงคำพูดของ สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ว่าหากพบ นายอริสมันต์ ก็จะส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย ส่วนเรื่องกลุ่มฝึกอาวุธเป็นเรื่องของข่าวที่มีรายละเอียดมากและละเอียดอ่อนเกี่ยวข้องกับเรื่องภายในที่ไม่สามารถให้คำตอบได้
พล.อ.เตีย บันห์ ระบุว่า ปัญหาความสัมพันธ์ของไทย และกัมพูชา ต้นเหตุไม่ใช่มาจากเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง แม้จะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้างก็ตามแต่ก็ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เดินทางมาพักพิงในกัมพูชาแล้วเพราะไม่มีตำแหน่งก็ไม่มีภาระกิจที่จะต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ใดเนื่องจากได้แสดงเจตจำนงค์ชัดเจนในการลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซ็นแล้ว