ปริมาณน้ำบางพื้นที่ของจ.มหาสารคามเพิ่มขึ้น
พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคกลางและภาคเหนือระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ชาวบ้านยังไม่สามารถอาศัยอยู่ภายในบ้านที่น้ำท่วมขังสูงและเริ่มเน่าเสียได้ ขณะที่ระดับน้ำบางพื้นที่ของจังหวัดมหาสารคามเพิ่มขึ้น หลังน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลมารวมกันที่ฝายมหาสารคามชาวตำบลหนองบัว อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ใช้เรือนำสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอยู่ในที่ปลอดภัย หลังจากปริมาณน้ำชีจากจังหวัดชัยภูมิและน้ำพองจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้ไหลมารวมกันที่ฝายมหาสารคาม ตำบลหนองบัว ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนถึงระดับวิกฤต โดยชาวบ้านใน 12 ตำบล ต้องอพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางอำเภอโกสุมพิสัยเตรียมไว้
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานีระดับน้ำในแม่น้ำมูลลดลงจากเมื่อวาน (3พ.ย.) 7 เซนติเมตร เหลือ 6.80 เมตร ขณะที่ทางจังหวัดฯ เตรียมเร่งผันน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงมากขึ้น รวมทั้งให้สถานีสูบน้ำของกรมชลประทานตามลำน้ำมูลจุดต่างๆ เร่งสูบน้ำขึ้นไปกักเก็บในแหล่งพักน้ำ เพื่อดึงน้ำมูลปริมาณมากออกจากพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษ ให้ไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานีอย่างรวดเร็ว ขณะที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา กำหนดระยะเวลาการรวบรวมข้อมูลความเสียหายของเกษตรกรที่ประสบกับภัยน้ำท่วมภายใน 15 พฤศจิกายน 2553 ก่อนส่งรายชื่อขอรับเงินชดเชยความเสียหายจากรัฐบาล
ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ น้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ 2,436 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากช่วงน้ำท่วมสูงสุดประมาณ 40 เซนติเมตร แต่หลายพื้นที่ยังน้ำท่วมสูง ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านหลายชุมชนยังต้องนอนในเต็นท์ข้างถนนเช่นชุมชนสถานีรถไฟ ชุมชนตลาดใหม่และชุมชนบางปรอง ในเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์
ขณะที่ชาวบ้านในเขตอำเภอเมืองอุทัยธานียังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมแม้ระดับน้ำจะลดลงในบางพื้นที่ แต่ยังพบน้ำท่วมขังอีกหลายจุด บางแห่งระดับน้ำท่วมสูง 0.50 -1 เมตร ทั้งในชุมชนของเทศบาลเมืองอุทัยธานี และพื้นที่ 5 ตำบล ที่เริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น เช่นเดียวกับบ้านเรือนกว่า 40 หลังคาเรือนริมแม่น้ำท่าจีน ในหมู่ 2 และหมู่ 5 ตำบลบางไทรป่า อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ที่น้ำท่วมสูง 1 เมตร มาหลายสัปดาห์ ทางจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยเนื่องจากน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น