การเลือกตั้งทั่วไปในพม่าส่อเค้าเกิดทุจริตขึ้นแล้ว

ต่างประเทศ
7 พ.ย. 53
08:07
66
Logo Thai PBS
การเลือกตั้งทั่วไปในพม่าส่อเค้าเกิดทุจริตขึ้นแล้ว


ครั้งแรกในรอบ 20 ปี สำหรับชาวพม่าทั่วประเทศ ที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันในวันนี้ และเป็นการเลือกตั้ง ที่ประชาคมโลกจับตามอง แต่ชาวพม่าเองกลับยังไม่ค่อยเข้าใจในการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน เริ่มมีการรายงานการทุจริตเกิดขึ้นบ้างแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งของพม่าผ่านไปครึ่งทางแล้ว หลังจากเปิดคูหาในวันนี้ (7 พ.ย.) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยจะสิ้นสุดการใช้สิทธิ์เลือกตั้งในเวลา 16.00 น. โดยผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวดีวีบี ทำงานเช้ากว่าปกติ เพื่อติดตามการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ขณะที่บรรยากาศการเลือกตั้งของพม่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนไปเข้าแถวเพื่อเลือกตั้ง ส่วนที่มัณฑะเลย์ ซึ่งแตกต่างจากกรุงย่างกุ้งที่ห้ามใช้มอเตอร์ไซค์ และแต่ภาพได้มาอย่างยากลำบาก ซึ่งแตกต่างจากการเลือกตั้งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ด้านสำนักข่าวดีวีบีได้รับรายงานจากกองบรรณาธิการในพม่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเริ่มงานเช้ากว่าปกติ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2008 ที่ทหารอ้างว่าผ่านการลงประชามติจากประชาชนจาก 37,000 คูหาเลือกตั้งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 330 เขต เพื่อเลือกตัวแทนทำงานใน 3 สภา สภาประชาชน หรือ สภาล่าง สภาชนชาติ หรือ สภาสูง และสภาท้องถิ่น รวมแล้วจะมีตัวแทนเข้าไปทำงาน 1,117 ที่นั่ง โดยที่ทหารจะได้โควต้า 25% หรือประมาณ 300 ที่นั่ง ส่วนการผ่านรัฐธรรมนูญ การที่จะผ่านร่างกฎหมายจะต้องได้รับเสียงประมาณ 75% ซึ่งเสียงจะต้องมาจากทหารด้วย

นอกจากนี้ มีรายงานว่ามีความตึงเครียดที่รัฐยะไข่ ว่าคนท้องถิ่นถูกจัดลงคะแนนประมาณ 1,000 คนให้ลงคะแนนพรรคยูเอสดีพี หรือสหภาพเพื่อประชาธิปไตย และการพัฒนา ที่มีความใกล้ชิดกับทหาร ขณะที่คนในท้องถิ่นต้องการเลือกด้วยตนเอง

ส่วนขั้นตอนในการนับคะแนน สื่อมวลชนพม่าระบุว่ายังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปที่คูหาเลือกตั้งที่ศาลากลาง ณ กรุงย่างกุ่ง เท่านั้น โดยบรรยากาศโดยรวมแตกต่างจากการเลือกตั้ง 20 ปีที่แล้วทีมีการนับคะแนนอย่างรวดเร็ว หลังจากปิดคูหาการเลือกตั้ง ขณะที่ในวันนี้ นางองงซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน ที่นำการเลือกตั้งชนะอย่างถล่มทลายเมื่อ 20 ปีที่แล้วได้ถูกกังขังมาตลอด 15 ปี ในช่วง 21 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงยืนยันว่า นายคิม อริส บุตรชายคนเล็กของนางอองซาน ซูจี ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เพื่อขอวีซ่าเข้าพม่า โดยเดินทางมาจากอังกฤษ และตามกำหนดคาดว่าจะอยู่ในไทยประมาณ 1 เดือน โดยยังอยู่ในระหว่างการฟังผลว่าจะได้วีซ่าหรือไม่

ทั้งนี้ ประชาคมโลกเคยพบเห็นลูกชายนางอองซาน ซูจี ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1991 ที่ขึ้นรับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ แทนนางอองซาน ซูจี ซึ่งเป็นมารดา โดยขึ้นเวทีพร้อมกับพี่ชาย อเล็กซานเดอร์ อริส และตั้งแต่ปี 1987 ที่นางอองซาน ซูจี ได้กลับพม่าเพื่อเยี่ยมมารดาที่ป่วยหนัก โดยได้พบหน้าสามีชาวอังกฤษ ไมเคิล อริส เพียง 5 ครั้งเท่านั้น โดยได้เสียชีวิตไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และจนถึงปัจจุบัน นางอองซาน ซูจี ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลัษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องฟังผลอย่างเป็นทางการก็พอจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร แต่ที่ต้องจับตามองคือบทบาทของนางอองซาน ซูจี นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปว่าในวัย 65 ปีจะได้รับการปล่อยตัวให้เป้นอิสระหรือไม่ หรือหากถูกปล่อยมาแล้วจะทำงานเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไปหรือไม่ แต่ที่ชัดเจนคือ พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ผู้นำทหารสุงสุดของพม่าในวัย 77 ปีที่ไม่ว่านางอองซาน ซูจี จะทำอย่างไร คงจะติดตามเฝ้าดูทุกฝีก้าว


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง