สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายแล้ว

ภูมิภาค
7 พ.ย. 53
13:12
82
Logo Thai PBS
สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายแล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จะมีฝนตกหนักในช่วง 2-3 วันนี้ ขณะเดียวกัน ภาคใต้กว่า 10 จังหวัดได้รับผลลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติยืนยันเหตุชาวประมงปัตตานีเสียชีวิตประมาณ 20 คนไม่ใช่มาจากคลื่นพายุหมุนซัดฝั่ง สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้วันนี้คลี่คลายไป กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าร่องมรสุมที่พาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทยตอนล่าง ขณะนี้มีกำลังอ่อนลง ทำให้วันนี้ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีฝนกระจายบางพื้นที่ และตกไม่หนักมาก ในเขตภาคใต้ตอนล่าง แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ ในช่วงวันที่ 9-13 พฤศจิกายน จะมีฝนตกหนักมากขึ้นในภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไป จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้นักวิชาการด้านภัยพิบัติ เตือนว่า ในช่วงเวลานั้นอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อาจจะเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำอีกครั้ง

นอกจากนี้ นักวิชาการยังบอกอีกด้วยว่าทุ่นเตือนภัยสึนามิของประเทศไทยในทะเลอันดามันขณะนี้ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทำให้ไทยไม่สามารถวัดได้ว่าจะเกิดสึนามิได้เมื่อไร เช่นเดียวกับทุ่นเตือนภัยสึนามิที่อินโดนีเซียก็ใช้การไม่ได้เช่นเดียวกัน

ส่วนประชาชนที่อยู่ในภาคใต้ใกล้ที่ลาดเชิงเขา ยังคงต้องเฝ้าระวังเหตุดินถล่มในระยะนี้ เพราะว่ากรมทรัพยากรธรณีได้เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มในจังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี และยะลา เพราะว่าขณะนี้ดินอุ้มน้ำมาก และยังคงมีฝนตกอยู่ในหลายพื้นที่

ขณะที่ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยืนยันว่าคลื่นขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากพายุดีเปรสชั่นขึ้นฝั่งภาคใต้ในช่วงต้นสัปดาห์เป็นคลื่นพายุซัดฝั่งที่มีความสูง 2-5 เมตร ไม่ใช่คลื่นพายุหมุนซัดฝั่ง หรือ storm surge ที่มีความสูงมากกว่า และจะเกิดจากพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังลมแรงกว่ามาก รวมทั้งยืนยันว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนภัยล่วงหน้าให้ชาวเรืองดนำเรือออกจากฝั่งเพราะจะมีคลื่นสูงและลมแรง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ กรมชลประทานให้เขื่อนต่างๆในลุ่มน้ำเจ้าพระยาระบายน้ำลดลง เพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง และหลังวันพรุ่งนี้ กรมชลประทานจะเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งที่ท่วมขังหลายจังหวัดในภาคกลาง ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้วยการเปิดทางให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น และเร่งสูบน้ำออกด้วยเครื่องสูบน้ำที่นำไปช่วย 428 เครื่อง

ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี วันนี้น้ำก้อนใหญ่ได้เคลื่อนผ่านจังหวัดมหาสารคามไปแล้ว ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง น้ำก้อนใหญ่เริ่มเข้าสู่พื้นที่อำเภอฆ้องชัย, ร่องคำ และกมลาไสย ในจังหวัดกาฬสินธุ์ และ อ.จังหาร, โพธิ์ชัย และเชียงขวัญ ใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 10 เซนติเมตร คาดว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้นอีก 3-5 วัน ทางด้านแม่น้ำมูล น้ำก้อนใหญ่ยังอยู่ที่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ โดยปลายน้ำอยู่ที่รอยต่อ จ.สุรินทร์กับ จ.บุรีรัมย์ คาดว่าน้ำน่าจะเริ่มทรงตัวในอีก 2 วันข้างหน้า

กรมชลประทาน ยังรายงานว่า น้ำก้อนใหญ่ส่วนหน้าจากแม่น้ำมูลและชี เริ่มมาบรรจบกันที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานีแล้วค่ะ แต่น้ำจะขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ และแนะนำว่าประชาชนริมฝั่งแม่น้ำมูลใน จ.อุบลราชธานี ควรเตรียมการล่วงหน้าเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง