ชาวพม่ากว่า 3,000 คนหนีภัยสงครามเข้า จ.กาญจนบุรี
ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ยังคงมีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบชาวพม่า ที่ยืนยันจะไม่เดินทางกลับไป เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ส่วนที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ขณะนี้ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยการสู้รบ เพื่อให้การดูแลศูนย์พักพิงที่ต้องรองรับผู้อพยพกว่า 3,000 คน ทำงานได้อย่างราบรื่น
ศูนย์พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราว ที่โรงเรียนบ้านซองกาเลีย และที่วัดถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ในตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ยังคงต้องรองรับผู้อพยพชาวพม่ากว่า 3,000 คน ที่อพยพหนีภัยสงครามมาจากฝั่งจังหวัดพญาตองซูของพม่า ทำให้ขณะนี้ ทางจังหวัดประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยจากการสู้รบ เพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินการช่วยเหลือ
และแม้ว่าเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) จะมีผู้บาดเจ็บ 7 คน จากระเบิดที่พลัดเข้ามาตกในฝั่งไทย และมีเด็กหญิงชาวพม่าที่ถูกระเบิดจากฝั่งพม่าเข้ามาเสียชีวิตที่ฝั่งไทยอีก 1 คน แต่พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ก็ยืนยันว่า สถานการณ์ยังอยู่ในความควบคุม แต่ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุรุนแรง
ผู้อพยพหนีภัยการสู้รบราว 3,000 คน ที่ไทยต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนในขณะนี้ มีจำนวนไม่มากเท่ากับที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีบัตรแรงงานต่างด้าวเท่านั้นที่สามารถเดินทางมายังฝั่งไทยได้
ผู้อพยพหลายคนยอมรับว่า ความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบาก เพราะต้องทนกับสภาพความหนาวเย็นในช่วงกลางคืน แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่ครอบครัวปลอดภัย ไม่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างการสู้รบ
ส่วนที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงผู้หนีภัยสงคราม ยังมีผู้อพยพชาวพม่าพักอยู่อีกประมาณ 500-600 คน
นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด เปิดเผยว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่ทยอยกลับไปยังฝั่งพม่าตลอดทั้งวันด้วยความสมัครใจ และไม่มีการผลักดันออกนอกจากพื้นที่ ส่วนผู้อพยพที่ยังค้างอยู่ในฝั่งไทยได้ขอพักอาศัยต่อไป เพราะไม่ไว้ใจในสถานการณ์ในฝั่งพม่า ซึ่งไทยก็จะดูแลตามหลักมนุษยธรรม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กองทัพ หน่วยกาชาด และองค์กรพัฒนาเอกชน ดูแลผู้อพยพจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลคนไทยในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยด้วย
ส่วนการนับคะแนนการเลือกตั้งของพม่า ยังไม่มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นมีรายงานว่า ใน 57 เขตเลือกตั้ง พรรคสามัคคีและการพัฒนาแห่งสหภาพ (USDP) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้รับชัยชนะใน 52 เขตเลือกตั้ง