วันนี้จับตาประชุมนานาชาติต่อต้านการทุจริตครั้งที่ 14 ที่ศูนย์สิริกิติ์
วันนี้มีการประชุมสำคัญระดับโลกที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงยุติธรรม เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่า ด้วยการต่อต้านการทุจริตครั้งที่ 14 ซึ่งเนื้อหาเป็นการแลกเปลี่ยนปัญหาและมาตรการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
โดยกำหนดการประชุมจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 10.00 น.ซึ่งจะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการตรวจสอบการทุจริตทั้งของไทยและระดับโลกร่วมกันเปิดงานอย่างเป็นทางการเพื่อเริ่มการประชุมแลกเปลี่ยนกันในระดับผู้นำก่อน
ประธานองค์กรเพื่อความโปร่งใสสากลและของไทย ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และกรรมการ ประธานกรรมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย กรรมการผู้จัดการธนาคารโลก รวมทั้งนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยผู้นำอีกกว่า 10 ประเทศ จะร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนกันในระดับผู้นำก่อน หลังเข้าสู่พิธีการเปิดงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นการกล่าวถึงสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นและการปราบปรามในแต่ละประเทศ
ขณะที่ช่วงบ่ายจะเข้าสู่สาระสำคัญว่าด้วยเรื่องอุปสรรคในการดำเนินการต่อต้านการทุจริต โดยหน่วยงานเพื่อต่อต้านการทุจริตจากทั่วโลกจากนั้นตลอดการประชุมจะเป็นการประชุมระดมความคิดระหว่างหน่วยงานที่ดำเนินการต่อต้านคอร์รัปชันในแต่ละประเทศ ถึงแนวทางและมาตรการในด้านความปลอดภัยแก่บุคลากรที่ดำเนินงานในด้านนี้ตลอดจนแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค ประสิทธิภาพการทำงาน และ ร่วมกำหนดแนวทางการแก้ไขเพื่อให้หน่วยงานที่ดำเนินการด้านการต่อต้านการคอร์รัปชั่นสามารถนำไปปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ผลการประชุมจะก่อให้เกิดปฏิญญากรุงเทพฯอันเป็นข้อตกลงร่วมกันในการต่อต้านการทุจริตด้วย
สำหรับการจัดงานประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตครั้งที่ 14 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “คืนความเชื่อมั่น ทั่วโลกโปร่งใสกู้ภัยทุจริต” ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน นี้
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมที่จัดขึ้นอยู่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินมี ศอฉ.จัดกำลังดูแลสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยทำให้การเข้า-ออกการประชุมเป็นไปอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย
ซึ่งก่อนหน้าการจัดประชุม 1 วันกำลังตำรวจได้ตรวจความเรียบร้อยทั้งศูนย์ประชุมแล้วไม่พบเหตุผิดปกติและในวันนี้ได้ระดมกำลังตำรวจกว่า 500 ร้อยนายดูแลผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คนจาก 135 ประเทศทั่วโลก