ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ตาก ยังตึงเครียด
สถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ของพม่าตรงข้ามจังหวัดตากยังตึงเครียด เนื่องจากทหารพม่าเสริมกำลังเตรียมโจมตีฐานกองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอ ทำให้ผู้อพยพหนีภัยการสู้รบกว่า 600 คน ยังไม่กล้ากลับเข้าพื้นที่
ผู้อพยพหนีภัยการสู้รบที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก 600 คน ยังอาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย บริเวณบ้านวาเล่ย์ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ เนื่องจากทราบข่าวว่ารัฐบาลพม่าได้เสริมกำลังทหารเข้าไปยังค่ายวาเล่ย์ ซึ่งเป็นกองบัญชาการของกองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอ ตามคำสั่งของพลจัตวาทูน เล วิน แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเตรียมปราบกองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอ ขณะที่กองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอได้ส่งกำลังทหาร 3 กองพัน เตรียมรับการโจมตี ทำให้สถานการณ์ยังตึงเครียด
ส่วนพื้นที่อำเภอแม่สอด ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในภาวะปกติ หลังผู้อพยพหนีภัยการสู้รบเกือบ 20,000 คนกลับไปยังจังหวัดเมียวดีหมดแล้ว ร้านค้าบางแห่งก็เริ่มเปิดดำเนินการ โดยทหารยังตรึงกำลังตามแนวชายแดนเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์
เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงราย บรรยากาศตามแนวชายแดนพม่าด้านจังหวัดท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สายและอำเภอแม่ฟ้าหลวง ทหารพม่ายังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทหารพม่ากว่า 200 นาย จากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้เสริมกำลังเข้าประชิดฐานต่างๆ ของกองทัพรัฐฉานของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยใหญ่ บริเวณดอยก่อวัน
ส่วนผู้อพยพหนีภัยการสู้รบที่ศูนย์พักพิงผู้หนีภัยการสู้รบโรงเรียนบ้านพระเจดีย์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 3 พันคนเดินทางกลับไปยังฝั่งพม่าแล้วเมื่อช่วงค่ำ หลังทางอำเภอสังขละบุรีได้รับการประสานจากเมืองพญาตองซูของพม่าว่า ทางการพม่าสามารถควบคุมสถานการณ์การสู้รบได้แล้ว
ขณะที่ตำบลหนองลู ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติสงครามนั้น ทางนายอำเภอสังขละบุรี ระบุว่า จะต้องรอประเมินอีก 1-2 วัน แต่ในจุดผ่อนปรนการค้าด่านเจดีย์ 3 องค์ หากพ่อค้าแม่ค้าไม่กังวลกับสถานการณ์ก็สามารถเปิดขายได้ตามปกติตั้งแต่วันนี้ (11 พ.ย.)