อุตุฯ เตือนใต้ระวังฝนตกหนัก 15-17 พ.ย.
อุตุฯ เตือนภาคใต้ระวังฝนตกหนักระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.นี้ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ดินถล่มต่อไป ส่วนในภาคกลาง ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ แต่ยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ คาดสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติปลายเดือนนี้
แม้น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาน้ำจะลดระดับเรื่อยๆ แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งขณะนี้ กรมชลประทานกำลังระดมเครื่องสูบน้ำเข้าไปสูบน้ำและเปิดทางน้ำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักให้เร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่า กว่าสถานการณ์น้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลาถึงปลายเดือนพ.ย.นี้
จังหวัดอุทัยธานี พื้นที่ที่เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำสะแกกรัง ขณะนี้ยังมีพื้นที่น้ำท่วมขังใน 4 ตำบลของอำเภอเมือง ชาวบ้านจำนวนหนึ่งตัดสินใจติดป้ายประกาศขายบ้านที่ดินและที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมต่อเนื่องหลายปี
นางวันเพ็ญ นาทอง ผู้ใหญ่บ้านโรงน้ำแข็ง หมู่ 5 ตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี ระบุว่า หมู่บ้านแห่งนี้เป็นพื้นที่ต่ำราบลุ่มริมแม่น้ำที่ถูกน้ำท่วมเป็นประจำ โดยเฉพาะในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติและขาดรายได้ จึงน่าจะเป็นเหตุจูงใจให้เจ้าของที่ดินบางรายตัดสินใจประกาศขายที่ดิน
ส่วนสถานการณ์น้ำในภาคใต้ ตั้งแต่วันนี้ (15 พ.ย.) จนถึงวันที่ 17 พ.ย.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย
ส่วนน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำปัตตานียังได้รับอิทธิพลจากน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากตอนบนของจังหวัดยะลา มีน้ำล้นตลิ่งท่วมขังพื้นที่ชุมชนอีกหลายแห่ง ขณะที่อำเภอควนขนุน อำเภอเมือง อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุงใน ยังมีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 1 เมตร
ขณะที่สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ สถานการณ์ดินถล่มก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเตือนภัยเป็นพิเศษ 3 อำเภอ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา และอำเภอวิภาวดี รวมถึงอีก 2 อำเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช คืออำเภอลานสกาและอำเภอร่อนพิบูลย์
ส่วนดินภูเขาบ้านสวนอาย เทือกเขาหลวง ในอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พบว่า มีรอยแยกกว้างประมาณ 1-2 เมตร ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร จุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากชุมชนเพียง 300 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตือนภัยผ่านหอกระจายข่าวของชุมชนให้ประชาชนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ให้เร่งอพยพไปในพื้นที่ปลอดภัย บริเวณวัดสวนอาย ที่จัดเตรียมไว้ให้
ขณะที่สถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำมูล น้ำชุดใหญ่ที่สุดอยู่ที่อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ส่วนที่ลุ่มน้ำชี น้ำชุดใหญ่ที่สุดยังคงอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ขณะนี้ได้รับผลกระทบแล้วอย่างน้อย 6 อำเภอ และยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์ กรมชลประทานคาดว่า ระดับน้ำจะยังทรงตัวและเริ่มลดลง ก่อนน้ำทั้งหมดจะไหลไปสมทบกับแม่น้ำมูลที่จังหวัดอุบลราชธานี