บอร์ดกสทช.ขีดเส้นทีวีดิจิทัลต้องจ่ายเงินประมูลงวดสองภายใน 25 พ.ค.

เศรษฐกิจ
22 พ.ค. 58
10:05
46
Logo Thai PBS
บอร์ดกสทช.ขีดเส้นทีวีดิจิทัลต้องจ่ายเงินประมูลงวดสองภายใน 25 พ.ค.

บอร์ดกสทช.ขีดเส้นตายทีวีดิจิทัล ต้องจ่ายเงินประมูลงวดที่สองภายในวันจันทร์หน้า หลังมีมติ 6 ต่อ 0 เห็นด้วยกับ 3 หน่วยงานตรวจสอบ ที่ไม่ยอมให้เลื่อนออกไปอีก พร้อมขอคสช.แจกคูปองส่วนลด กล่องอีกล็อต เพื่อให้ครบ 22.8 ล้านครัวเรือน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยผลการประชุม บอร์ดกสทช.วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาการเลื่อนกำหนดระยะเวลาในการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรทัศน์ ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ประเภทบริการทางธุรกิจ ออกไปหรือไม่ ว่า ที่ประชุมมีมติ 6 ต่อ 0 เห็นด้วยกับความเห็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ สำนักงานอัยการสูงสุด สรุปไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ทั้ง 24 ช่อง เลื่อนชำระการประมูลทีวีดิจิทัล งวดสอง ออกไปตามที่ร้องขอ เพราะเห็นว่าผิดกฏหมาย

นอกจากนี้บอร์ดขอให้ สำนักงานกสทช. ทำเรื่องถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขออนุมัติ การแจกคูปองส่วนลด 690 บาท เพิ่มเติมล็อตต่อไป ให้ครบ 22.8 ล้านครัวเรือน โดยให้ใช้งบประมาณในกรอบวงเงินเดิมที่เคยใช้ในโครงการแจกคูปองล็อตแรก 9 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านให้ประชาชนเข้าถึงและรับชมได้มากที่สุด

ก่อนหน้านี้ สำนักงานกสทช.ทำหนังสือถามความเห็นไปถึง 3 หน่วยงานตรวจสอบ ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่า จะให้ผู้ประกอบการเลื่อนจ่ายได้หรือไม่ แต่ทั้งสตง. และ สำนักงานอัยการสูงสุด ตอบกลับว่า ไม่สามารถเลื่อนจ่ายได้ เพราะผิดกฏหมาย และการกำหนดการชำระค่าธรรมไว้ในเงื่อนไขการประมูล ถือเป็นกฏหมาย ที่ กสทช.กับผู้ประกอบกิจการไม่สามารถตกลงเลื่อนจ่ายกันได้เอง

ดังนั้น หากผู้ประกอบการจะจ่ายเงิน ต้องมาจ่ายภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เป็นวันสุดท้าย หากจ่ายหลังจากนั้น สำนักงานกสทช. จะทำหนังสือทวงตามขั้นตอน และต้องเสียค่าปรับ ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต งวดสอง สำนักงาน กสทช. ระบุว่า ชำระแล้ว 3 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบการทีวีช่องโมโน มูลค่า 329 ล้าน 7 หมื่นบาท และก่อนหน้านี้ มีช่อง 7HD จ่ายแล้ว 683 ล้านบาท และช่องเวิร์คพ้อยท์ จำนวน 333 ล้านบาท รวม 3 ช่องจ่ายแล้ว 1,339 ล้านบาท
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง