ฝากขังพล.ท.มนัสผลัดแรก ออกหมายจับ 84 คุมตัวได้ 52 ยังหนี 32
วันที่ 4 มิ.ย.2558 พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนพล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งถูกออกหมายจับคดีค้ามนุษย์ว่า พล.ท.มนัส ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดนาทวี เพื่อขอฝากขังผลัดแรก พร้อมยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว ซึ่งก่อนหน้านี้พล.ท.มนัส ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต
โดยภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า มีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้อีกหรือไม่ ยืนยันว่า ตำรวจทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ หากพบว่า มีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน 14 ล้านบาท ของพล.ท.มนัส ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพล.ท.มนัสเข้ามอบตัวแล้วเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจเตรียมขอหมายจับเครือข่ายในคดีนี้เพิ่มอีก 4-5 คน ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับล่าสุดอยู่ที่ 84 หมาย ควบคุมตัวได้แล้ว 52 คน และยังหลบหนีอีก 32 คน
ส่วนการยื่นประกันตัว พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสามารถดำเนินการได้ 2 ขั้นตอน คือ ยื่นขอประกันตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีการสอบสวนร่วมกับอัยการ และพิจารณาอีกครั้งว่า ผู้ต้องหาเข้าข่ายหลบหนี หรือยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือไม่ และหากไม่ได้รับการประกันในชั้นพนักงานสอบสวน ก็สามารถยื่นขอประกันในชั้นศาลได้ ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณาคำร้อง และหากศาลชั้นต้นไม่อนุญาต สามารถส่งคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์ได้
ด้านพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าฝ่ายสอบสวนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา เปิดเผยว่า จะเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบเวลาการควบคุมตัวภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวี ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เบื้องต้น พลโทมนัส ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ส่วนที่ตรวจสอบพบการโอนเงิน 14 ล้านบาท จากเครือข่ายค้ามนุษย์ในจ.ระนอง แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธว่า เงินที่โอนมา มาจากการซื้อวัวชน แต่เมื่อสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์กลับไม่พบว่า มีคนใดที่เข้าไปอยู่ในวงการวัวชน จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับ
ส่วนกรณีนายณัฐภัทร แสงทอง หรือ โกมิ๊ก ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ถูกควบคุมตัวได้ในประเทศเมียนมา ขณะนี้ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างประสานเพื่อขออายัดตัว เบื้องต้นเมียนมาอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีการกระทำความผิดในเรื่องของการค้ามนุษย์ในเมียนมาด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิด ต้องรอให้ทางเมียนมาดำเนินคดีให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถนำตัวส่งมาให้ตำรวจไทยได้
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ส่วนตัวสนับสนุนให้ตำรวจติดตามขยายผลคดีนี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าใครจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ ทหาร หรือ ประชาชน ล่าสุดมีการอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วกว่า 80 คน
“ผมไม่ได้ช่วยเหลือพล.ท.มนัส ตามที่มีสื่อบางฉบับเสนอข่าวและไม่ได้รู้จัก พล.ท.มนัสเป็นการส่วนตัว มีเพียงข้อมูลและประวัติการทำงานเท่านั้น” พล.อ.ประวิตรกล่าวและว่า ส่วนระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย จะได้รับการพิจารณาปรับอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เพราะได้ดำเนินการแก้ปัญหาทุกด้าน แต่ก็ขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกาจะพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 93 คน จากประเทศมาเลเซีย ขอผ่านเขตแดนประเทศไทย ที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อเข้าไปปฏิบัติภารกิจตรวจหาพิกัดขุดศพในพื้นที่ป่าฝั่งมาเลเซีย หลังจากจัดส่งกำลังสร้างค่ายที่พักชั่วคราว เพื่อความสะดวกในการทำงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา