เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.2559) ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ 3 สมัยซ้อน พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองแชมป์โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก เจ้าของแชมป์ปี 2010 ที่สนามศุภชลาศัย โดยสถิติที่พบกัน 19 ครั้ง บุรีรัมย์ ชนะ 10, เสมอ 9 เกม เกมนี้ บุรีรัมย์ ได้ โก-ซุลกิ ที่หายเจ็บกลับมาลงเล่น ส่วนเอสซีจีเมืองทองได้ จูเนียร์ เนเกรา กับ คลีตัน ซิลวา ลงสนาม ซึ่งเกมนี้ ทริสตอง โด ที่มีข่าวว่าจะย้ายมาเมืองทองร่วมชมเกมด้วย
ครึ่งแรกเกมของบุรีรัมย์ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และขึ้นนำก่อน 1-0 จาก ดิโอโก หลุยส์ซานโต จบครึ่งแรกบุรีรัมย์นำ 1-0 โดยในช่วงพักครึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ รับมอบเงินจากภาคเอกชน 4 หน่วยงาน รวม 4 ล้านบาท มอบให้กับกองทุนฟุตบอลไทยไปบอลโลก
ครึ่งหลัง เมืองทองเปลี่ยน อดิศักดิ์ ไกรษร ลงแทน จูเนียร์ เนเกรา โดย นาที 65 กวินทร์ เปิดบอลพลาด ก่อนที่ พีระพัฒน์ จะทำฟาล์ว ไคโอะ นอกกรอบเขตโทษ เเต่ผู้ตัดสิน ฑิธีชัย นวลจันทร์ เป่าให้จุดโทษ เเละเป็น อันเดรส ตูนเยส กองหลังกัปตันทีม ยิงให้บุรีรัมย์นำห่าง 2-0 นาที 79 อดิศักดิ์ ไกรษร นักเตะป้ายแดงของเมืองทอง ยิงทีมเก่า ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
หลังจากนั้น เอสซีจีเมืองทอง มีโอกาสตีเสมอจากจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษของ โก ซุลกิ แต่กรรมการไม่เป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่นาที 83 ดีโอโก้ จะเปิดบอลให้ จักรพันธ์ แก้วพรหม โหม่งประตูปิดท้ายให้บุรีรัมย์ ชนะ เอสซีจีเมืองทอง 3-1 คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ไม่ภูมิใจกับแชมป์ในครั้งนี้ เพราะมาจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ผิดพลาด
ทั้งนี้ บุรีรัมย์ ได้เดินทางกลับทันที เพื่อเตรียมลงเตะ เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก นัดแรกของกลุ่มเอฟ พบ เอฟซี โซล จากเกาหลีใต้ ในวันที่ 23 ก.พ.