คนอินเดียกว่า 10 ล้านคนไม่มีน้ำใช้ จากเหตุประท้วงยึดโรงจ่ายน้ำประปา

ต่างประเทศ
23 ก.พ. 59
22:21
199
Logo Thai PBS
คนอินเดียกว่า 10 ล้านคนไม่มีน้ำใช้ จากเหตุประท้วงยึดโรงจ่ายน้ำประปา
ทางการนิวเดลีของอินเดียระบุว่า ประชาชนในเมืองหลวงอาจจะต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จากการชุมนุมประท้วงยึดโรงจ่ายน้ำประปาและปิดประตูกั้นคลองสายหลัก ทำให้ประชาชนมากกว่า 10 ล้านคนไม่มีน้ำประปาใช้

คณะกรรมการน้ำประปาของกรุงนิวเดลีระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมโรงจ่ายน้ำประปาที่ได้รับความเสียหายระหว่างที่ถูกผู้ประท้วงซึ่งเป็นวรรณะชาฏยึดไว้ พร้อมกับปิดประตูระบายน้ำในคลองมูนัค ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำประปาที่ส่งน้ำให้กับบ้านเรือนประชาชน 3 ใน 5 ของกรุงนิวเดลี ทำให้คาดว่าประชาชนในเมืองหลวงอาจเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำไปอีกประมาณ 15 วัน

ทางการอินเดียได้ส่งรถบรรทุกน้ำเข้าไปตามพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและจัดการให้มีการปันส่วนน้ำอย่างเหมาะสม เนื่องจากขณะนี้มีโรงบำบัดน้ำที่ใช้งานได้เพียง 4 แห่ง จากทั้งหมด 9 แห่ง และยังจัดกำลังทหารไปยังส่วนต่างๆ ของแม่น้ำ เพื่อป้องกันผู้ประท้วงไม่ให้ปิดกั้นประตูระบายน้ำ หรือ ยึดโรงจ่ายน้ำประปาอีก

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงน้ำของรัฐในกรุงนิวเดลีระบุว่า วันนี้ (23 ก.พ.2559) ทางการเริ่มปล่อยน้ำบางส่วนออกจากคลองมูนัคแล้ว ทำให้บ้านเรือนประชาชนในตอนเหนือและตอนกลางของกรุงนิวเดลี เริ่มมีน้ำประปาใช้บ้างแล้ว พร้อมกับเตือนประชาชนให้ประหยัดน้ำและใช้น้ำอย่างคุ้มค่า

นายมาโนฮาร์ ลัล คัทตาร์ มุขมนตรีของรัฐหรยาณา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการประท้วงของกลุ่มวรรณะชาฏ ออกมาให้คำมั่นในการชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงครั้งนี้

การประท้วงที่กินเวลานานประมาณ 1 สัปดาห์ เกิดขึ้นจากคนในวรรณะชาฏ ที่ต้องการให้รัฐบาลจัดสรรโควตาตำแหน่งงานและที่เรียนในมหาวิทยาลัยจากเดิมที่ทางการสงวนโควตาเหล่านี้ไว้ให้คนวรรณะจัณฑาล ซึ่งเป็นวรรณะที่ต่ำที่สุด

การประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนและ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบขนส่งมวลชน จากการปิดกั้นถนนและเส้นทางรถไฟ จนทำให้รถไฟซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของชาวอินเดียประมาณ 850 เที่ยว ต้องยกเลิกให้บริการ

ส่วนโรงงานและร้านค้าอีกประมาณ 500 แห่งได้รับความเสียหายจากการถูกเผา ขโมยทรัพย์สินและ สูญเสียรายได้ คิดเป็นมูลค่าเสียหายประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง