เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.2559) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวขยายระยะเวลาเยียวยาผู้ใช้งาน เครือข่ายระบบ 2จี ของเอไอเอส ประมาณ 400,000 เลขหมาย ออกไปจนถึงวันที่ 14 เม.ย.นี้ โดยศาลปกครองกลางให้เหตุผลว่า กสทช. และกรรมการกิจการโทรคมนาคม ไม่ได้ดำเนินมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งต้องกำหนดวันสิ้นสุดให้บริการอย่างชัดเจน ตามประกาศการคุ้มครองผู้ใช้บริการปี 2556 และต้องกำหนดให้ กสทช.หรือ กทค.ต้องแจ้งล่วงหน้าหน้าให้ค่ายมือถือรับทราบอย่างน้อย 90 วัน หรือตามระยะเวลาที่ กสทช. กำหนด หากต้องยุติให้บริการสัญญาณ เพื่อให้แจ้งต่อประชาชนให้ทราบล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 30 วัน ซึ่งกรณีนี้ จึงส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน 400,000 คน
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า เหตุผลที่ยื่นฟ้อง เพราะจากมติของ กสทช.ที่อนุมัติออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ย่าน 900 MHz ให้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากชนะประมูล 4จี ส่งผลทำให้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้บริการสัญญาณมือถือรุ่นเก่า 2จี บนคลื่น 900 MHz ของเอไอเอส ที่มีอยู่ 400,000 เลขหมาย ต้องซิมดับ และลูกค้าที่ใช้เครือข่ายสัญญาณ 3จี ที่นำไปใช้กับเครื่องมือถือรุ่นเก่า 2จี อีกประมาณ 7,600,000 เลขหมาย รวมทั้งผู้ใช้เครือข่ายทีโอทีอีกประมาณ 200,000 เลขหมาย ไม่สามารถใช้งานได้บนโครงข่าย 900 MHz อีกต่อไป ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 15 มี.ค.2559 เป็นต้นไป เอไอเอสจึงจำเป็นต้องยื่นฟ้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ