วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงจังหวัดยะลา เพิ่มกำลังคุมเข้มพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลังเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยและรถยนต์เป้าหมาย ที่มีการแจ้งหายในพื้นที่ เพื่อป้องกันผู้ก่อเหตุนำรถดังกล่าวไปประกอบวัตถุระเบิดก่อเหตุในพื้นที่
ขณะที่ทหารพรานเกือบ 100 นาย กระจายกำลังออกค้นหา ที่ตั้งกองกำลังติดอาวุธบริเวณเทือกเขาตะเวและค้นหมู่บ้านที่ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หาแหล่งซ่อนตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่คาดว่า อาจจะมีส่วนร่วมยึดพื้นที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ต้องสงสัยอย่างใด
ขณะที่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า ภาครัฐต้องทบทวนการจัดตั้งฐานทหารใกล้กับสถานที่ราชการอื่นๆ ทั้งโรงเรียน วัด และโรงพยาบาล เนื่องจากจะกลายเป็นเป้าหมายให้ผู้ก่อเหตุยึดเป็นที่โจมตีและเป็นฐานที่กำบังได้โดยรัฐจะต้องเร่งทบทวนและแก้ไขให้ด่วนที่สุด เพื่อขวัญและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่
นายสมบูรณ์ แซ่เจน ชาวจังหวัดยะลา กล่าวว่า เป็นดาบสองคม เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องกลับมาคิดอีกครั้ง ว่าการที่เราตั้งค่ายในสถานที่ต่างๆนั้น มันเป็นดาบสองคนที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเราได้หรือไม่
ด้าน พญ.บุญญรัตน์ ประพันธ์วงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เปิดเผยว่า หลังจากผู้ก่อเหตุบุกยึดโรงพยาบาลและใช้เป็นฐานในการโจมตีทหารพราน ทางโรงพยาบาลยังไม่มีการประสานให้ทางทหารมาคุ้มกันแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มุ่งเป้าหมายก่อความรุนแรงในโรงพยาบาลโดยตรง เพียงแต่ยึดเป็นที่กำบังเท่านั้น ขณะที่การก่อตั้งฐานทหารพรานใกล้กับโรงพยาบาล จนทำให้โรงพยาบาลตกเป็นเป้านั้น แท้ที่จริงแล้วโรงพยาบาลมาก่อตั้งทีหลัง ซึ่งในพื้นที่มีเพียงโรงพยาบาลเจาะไอร้องที่เดียว ที่มีบริเวณใกล้กับฐานทหารในพื้นที่