ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา (1 เม.ย.2559) เกิดเหตุใช้อาวุธสงครามกราดยิงร้านน้ำชา ใน อ.รามัน จ.ยะลา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ บริเวณร้านน้ำชาบ้านดุซงตาวา หมู่ 4 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา พบผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 1 คน
นอกจากนี้ ยังตรวจพบหัวระเบิด M79 จำนวน 1 ลูกตกอยู่ภายในร้านจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้ง 3 คน นั่งดื่มน้ำชาร่วมกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง มีผู้ก่อเหตุขับรถกระบะมาจอดบริเวณหน้าร้านและใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าไปในร้าน ทำให้ชาวบ้านต่างวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่า เกิดจากการสร้างสถานการณ์ ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่
ขณะที่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งด่านตรวจสอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ในเส้นทางก่อนเข้าตัวเมือง เพื่อเฝ้าระวังผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์รุนแรง หลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเหตุรุนแรงรายวันต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจความมั่นคง ในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจใน 3 อำเภอ ของ จ.สงขลา ได้แก่ อ.หาดใหญ่ อ.เมือง และ อ.สะเดา ต้องเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้าย ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ หลังใกล้ถึงวันครบรอบ 11 ปี เหตุการณ์ลอบวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่วันที่ 3 เม.ย. เมื่อปี 2548 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ตรึงกำลังตรวจเข้มตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขณะที่ตำรวจ จ.นราธิวาส ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย จำนวน 26 คน ที่ก่อเหตุบุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ 21 คน ได้นำไปยังศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ก่อนหน้านี้แล้ว โดย 8 คนให้การรับสารภาพว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
สำหรับความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ได้เรียกพยานมาสอบปากคำแล้ว 180 คน ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก และจากประจักษ์พยานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 พบว่า มีคนกลุ่มที่ก่อเหตุจำนวน 52 คน ปืน 52 กระบอก