วันนี้ (31 พ.ค.59) ที่ห้องรับรอง 1 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชนหรือเอฟทีเอว็อทช์และภาคประชาสัมที่ติดตามผลกระทบจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นำโดย น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ได้หารือร่วมกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี กลุ่มเอฟทีเอว็อทช์ ได้ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ 6 ข้อ โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลตัวเลขผลการศึกษาข้อดีข้อเสียของการเข้าร่วมทีพีพีอย่างครบถ้วน จัดเวทีวิชาการดีเบตข้อมูล เรียกร้องให้มีการชี้แจงในระดับนโยบาย ถึงการรับมือผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นผลจากการต้องยอมรับการผูกขาดตลาดยาหลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีพีพี ที่ สธ.ประเมินว่า จะต้องเตรียมงบประมาณตั้งแต่ประมาณ 2,800 – 288,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่งานศึกษาของสถาบันปัญญาภิวัฒน์ที่กระทรวงพาณิชย์จัดจ้างศึกษาว่า การเข้าทีพีพีจะทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.77 เท่านั้น
ขณะเดียวกันยังยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลศึกษาและทำความเข้าใจถึงผลกระทบจากการคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติผ่านกลไกระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน และเมื่อวิเคราะห์รวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว ให้นำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศหรือคณะรัฐมนตรี ว่าไทยควรไปขอเข้าร่วมเจรจา TPP หรือไม่ โดยในระหว่างนี้ให้หยุดกระบวนการแก้กฎหมาย ประกาศและระเบียบต่างๆ ตามคำเรียกร้องของชาติมหาอำนาจต่างๆ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการเจรจา เช่น พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ การเปิดตลาดเนื้อสุกรที่พบสารเร่งเนื้อแดง ยกเลิกการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง