นักวิชาการชี้แรงงานเมียนมายังไม่กลับประเทศเพราะปัจจัยเรื่องค่าจ้าง

ต่างประเทศ
23 มิ.ย. 59
18:19
133
Logo Thai PBS
นักวิชาการชี้แรงงานเมียนมายังไม่กลับประเทศเพราะปัจจัยเรื่องค่าจ้าง
แรงงานชาวเมียนมาจำนวนไม่น้อยที่ยังได้ค่าแรงไม่ถึง 300 บาท รวมถึงสวัสดิการที่ไม่เป็นธรรม ปัญหานี้ถูกคาดการณ์ว่าอาจเป็นปัจจัยสำคัญให้แรงงานคิดกลับประเทศบ้านเกิด แต่นักวิชาการด้านแรงงานไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้

แม้ 2 เดือนที่แล้ว การออกมาเรียกร้องเรื่องค่าจ้างของแรงงานเมียนมากลุ่มนี้จะช่วยให้เพื่อนแรงงานในโรงงานสบู่ที่ จ.นครปฐม หลายร้อยคนได้ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ค่าโอทีและสวัสดิการอื่นๆที่เป็นธรรม แต่ไม่นานนัก พวกเขากลับถูกไล่ออกจากเหตุผลเป็นแกนนำเรียกร้อง

ขณะที่แรงงานเมียนมาคนหนึ่งได้รับอุบัติเหตุจากการทำงานในโรงงานทำกระสอบ ทำให้ต้องหยุดงานมากกว่า 1 สัปดาห์ เขาไม่ได้รับการเยียวยาจากนายจ้างเท่าที่ควรและอาจต้องถูกเลิกจ้าง ปัญหาด้านสวัสดิการเป็นชะตากรรมที่แรงงานต้องรับสภาพ เช่นเดียวกับค่าจ้างขั้นต่ำที่ได้ไม่ถึง 300 บาท

ความพยายามดิ้นรนร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐให้ได้ค่าจ้างที่เป็นธรรม แรงงานหลายคนจึงคิดอยากกลับบ้าน เพราะมั่นใจว่าคุณภาพชีวิตอาจจะดีกว่าภายใต้การนำของนางออง ซาน ซู จี แต่ก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่การจ้างงานและค่าแรงจะเทียบเท่ากับไทย

"ออง ซาน ซู จี เพิ่งขึ้นมาได้ไม่ถึงปี แล้วก็ดีมาเรื่อยๆ ตอนนี้พวกเราก็อยากจะกลับบ้าน แต่ว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ไทยได้เยอะ ซึ่งถ้ากลับไปโรงงานก็ยังไม่ค่อยมี แล้วเราจะไปทำงานที่ไหน" โค โค นาย ผู้ประสานงานคณะกรรมการสมานฉันท์คุ้มครองแรงงานข้ามชาติฯ กล่าว

ค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะได้ไม่ถึง 300 บาท แต่ยังมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำในเมียนมาที่ได้เพียง 40-60 บาทเท่านั้น แม้ในเดือนกันยายน 2559 รัฐบาลเมียนมาจะปรับเพิ่มเป็น 100 บาท หรือประมาณ 3,400 จ๊าดต่อวัน

รศ.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านพัฒนาแรงงาน ทีดีอาร์ไอ มองว่ารายได้ของ 2 ประเทศที่แตกต่างกันถึง 3 เท่า การจะปรับเพิ่มค่าแรง กระทั่งมีผลจูงใจให้แรงงานกลับประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องคำนึงถึงความสามารถของนายจ้างและสถานประกอบการด้วย

คำบรรยายภาพ

คำบรรยายภาพ

คำบรรยายภาพ

ความพยายามปรับขึ้นค่าจ้างของเมียนมาสะท้อนได้ว่า รัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตพลเมืองตัวเองมากขึ้น ซึ่งผู้อำนวยการด้านพัฒนาแรงงาน ทีดีอาร์ไอ ยอมรับว่าอาจมีผลให้แรงงานที่อยู่ในไทยมานานพอมีเงินเก็บและมีทักษะ อาจเลือกกลับประเทศเมียนมา เพราะเมื่อถึงจุดนั้นแรงงานกลุ่มนี้อาจมองเรื่องการกลับไปยังถิ่นฐานบ้านเกิดและอยู่กับครอบครัวมากกว่ามองเรื่องรายได้ ดังนั้น 10 ปีจากนี้ภาคอุตสาหกรรมไทยจึงควรวางแผนหาแรงงานทดแทนในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง