วันนี้ (28 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ ชาวไทยมุสลิมจำนวนมากในชุมชนจะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี ร่วมละมาดหลังการละศีลอดท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขตเมืองอย่างเข้มงวด หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิด 3 ลูกใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ทั้งนี้ ช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนถือศีลอด ชาวไทยมุสลิมส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตในมัสยิดเป็นหลัก เพราะเชื่อว่า 1 ใน 10 วันสุดท้ายจะมี 1 วันที่พระเจ้าประทานพรให้ได้บุญมากกว่า 1,000 เท่า อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 วันสุดท้ายมักเกิดเหตรุนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ก่อเหตุถูกปลูกฝังความเชื่อที่บิดเบือน ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุยิง น.ส.มลฤดี ทองเป็นไชย และ น.ส.สร้อยเพชร ถานกุมา ได้รับบาดเจ็บที่บ้านล่องควน ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยแถวหน่วยกำลังพลตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองที่ จ.ยะลา เพื่อดูแลความปลอดภัยในช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน เน้นการตรวจค้นบ้านพัก ห้องเช่า และตั้งด่านตรวจ พร้อมตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย โดยเฉพาะรถยนต์อีซูซุดีแม็กซ์ สีบรอนเงิน ทะเบียน วบ.9157 กทม. ที่ถูกโจรกรรมจาก จ.ปัตตานี ซึ่งอาจนำมาก่อเหตุรุนแรง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดในรถยนต์ใกล้ฐานปฎิบัติการของหน่วยปฎิบัติการพิเศษ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และเฝ้าติดตามนายซูกีมัน กูบารู หนึ่งในผู้ก่อเหตุที่อาจหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ยังเร่งตรวจสอบร้านจำหน่วนประทัดและดอกไม้ไฟในพื้นที่ หลังกองทัพภาคที่ 4 ประกาศห้ามจำหน่ายในช่วงเดือนถือศีลอด เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและเป็นการอำนวยความสะดวกให้ชาวไทยมุสลิมที่ต้องการสมาธิในการประกอบศาสนกิจ หลังจากเมื่อวานนี้ ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ได้บุกตรวจค้นโกดังสินค้า 5 แห่ง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส พบประทัดรวมกว่า 60 ตัน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของ 3 คน ในข้อหาผิด พรบ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนดินระเบิดและดอกไม้เพลิงที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและนำเข้าดอกไม้เพลิงในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งตรวจยึดพลุและดอกไม้เพลิงที่มีส่วนประกอบของดินดำ ซึ่งเป็นเชื้อปะทุที่สามารถนำไปประกอบเป็นระเบิด