วันนี้ (1 ก.ค.2559) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ในฐานะประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำครอบครัวของนักเรียนหญิง อายุ 19 ปีที่ถูกนางไก่(นายจ้าง) แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า จะพาผู้เสียหายมาแจ้งความนางไก่ในข้อหาแจ้งความเท็จ พร้อมยืนยันว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีกับนางไก่ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่มารดาของนักเรียนหญิงอายุ 19 ปี กล่าวว่าได้เข้าทำงานกับนางไก่ ผ่านการแนะนำจากเพื่อนบ้าน และได้เข้ามาทำงานพร้อมกับสามีและบุตรสาว โดยทำงานได้เพียง 10 วัน ซึ่งนางไก่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการเดินทางและที่พักให้ทั้งหมด แต่จะหักจากเงินเดือนที่ได้รับ จากนั้นนางไก่พยายามขอให้ยกบุตรสาวของตัวเองเป็นลูกบุญธรรม เพื่อจะให้ไปทำงานดูแลผู้ใหญ่ที่ประเทศฮ่องกง โดยอ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 2 - 5 ล้านบาท แต่ตนไม่ยินยอม ทำให้นางไก่ข่มขู่ จะฟ้องร้องดำเนินคดีฐานลักทรัพย์นายจ้าง ทำให้ตัดสินใจเก็บของใช้ส่วนตัวออกทางบันไดหนีไฟ ตามที่เห็นในภาพวงจรปิด ที่นางไก่นำมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้นำทรัพย์สินของนางไก่ออกมา
ด้านบิดานักเรียนหญิง เล่าว่า นางไก่ ได้ให้มาทำงานที่ร้านรับล้างรถ ย่านประชานิเวศน์ โดยให้ค่าตอบแทนวันละ 500 บาท แต่ทำงานได้เพียง 22 วัน ก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น จึงหยุดทำงาน
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสอบถามข้อมูลว่านางไก่ มีพฤติกรรมเข้าข่ายอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติหรือไม่ พร้อมเตรียมนำพยานหลักฐาน และพยานบุคคลอีก 15 ปาก เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมทั้งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะแจ้งความนางไก่ ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะนางไก่มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบัน
นอกจากนี้จะมีผู้เสียหายจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ในข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะถูกหญิงไก่ดำเนินคดีลักทรัพย์นายจ้างเช่นเดียวกัน
พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะประสานงานกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากการแจ้งความของนางไก่ มีข้อพิรุธสงสัยและสามารถปล่อยตัวชั่วคราวได้ ซึ่งความผิดฐานแจ้งความเท็จหากประกันตัวชั้นสอบสวนจะต้องใช้เงินคนละ 3 ล้านบาท