เหตุโจมตีร้านเบเกอรี่ชื่อ "โฮลีย์ อาร์ติสัน" เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2559 เมื่อกลุ่มติดอาวุธบุกเข้าไปในร้านและจับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเป็นตัวประกัน เหตุการณ์ยืดเยื้อนานถึง 12 ชั่วโมง ก่อนที่ตำรวจบังคลาเทศจะบุกเข้าช่วยตัวประกันในวันที่ 2 ก.ค.2559 เหตุการณ์ครั้งนี้มีตัวประกันเสียชีวิตทั้งหมด 20 คน มีตำรวจเสียชีวิต 2 คน และผู้ก่อเหตุถูกสังหาร 6 คน เจ้าหน้าที่ช่วยผู้รอดชีวิตได้ทั้งหมด 13 คน
ตัวประกันที่เสียชีวิตประกอบด้วย ชาวอิตาลี 9 คน ญี่ปุ่น 7 คน ชาวอเมริกัน 1 คน และอินเดีย 1 คน และชาวบังคลาเทศ 2 คน
ต่อมาสำนักข่าวอะมัค ซึ่งเป็นสื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) รายงานว่า กลุ่มไอเอสอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้
ดิเอโก รอสซินี ชาวอาร์เจนตินาที่ทำงานเป็นพ่อครัวประจำร้านโฮลีย์ อาร์ติสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตเปิดเผยว่า กลุ่มไอเอสทำเหมือนว่าจะมารับประทานอาหารค่ำ ก่อนจะเปิดฉากยิง ทำให้เขาต้องวิ่งขึ้นบันไดไปบนหลังคา จากนั้นก็กระโดดหนีไปยังหลังคาตึกใกล้เคียง
"ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นความจริง มันเหมือนฉากในหนัง ผู้ก่อเหตุเอาปืนจ่อมาที่ผม และผมได้ยินเสียงปืนดังตลอด มันน่ากลัวมาก" รอสซินีเล่าเหตุการณ์
ผู้รอดชีวิตอีกคนเล่าว่า การยิงปืนครั้งแรกเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ให้คนในร้านกลัว แต่จากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ผู้อยู่ภายในร้านอาหารตะเกียกตะกายหาทางหนีเอาชีวิตรอด
ทางการบังคลาเทศเปิดเผยว่าตัวประกัน 20 คนถูกกลุ่มไอเอสสังหาร ก่อนที่ทหารคอมมานโดจะบุกเข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่ถูกฆ่าด้วยของมีคม โดยการยุติเหตุการณ์สามารถช่วยชีวิตตัวประกันไว้ได้ 13 คน
การโจมตีที่เกิดขึ้นนับเป็นเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในบังคลาเทศ