บริการพร้อมเพย์ หรือชื่อเดิม คือ "Any ID" คือระบบที่ผูกบัญชีธนาคารกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อความสะดวกในการรับโอนเงิน โดยบริการดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ National e-Payment ของรัฐบาลที่มุ่งลดการใช้เงินสดในสังคมไทย ซึ่งมีต้นทุนสูง พร้อมเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว
หัวใจสำคัญของบริการพร้อมเพย์ คือใครก็สามารถโอนเงินได้ โดยไม่ต้องถามเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งการเชื่อมเลขบัญชีเงินฝากของธนาคาร กับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และเลขประจำตัวประชาชนไว้ด้วยกัน ถือเป็นการจัดระบบข้อมูลกลาง หรือ "ถังข้อมูล" ด้วย
นอกจากการรับเงินโอนระหว่างกันที่สะดวกมากขึ้น ระบบพร้อมเพย์ยังเอื้อต่อการรับเงินจากรัฐได้โดยตรง เช่น เงินสวัสดิการ เงินคืนภาษีของกรมสรรพากร ทั้งนี้ ระบบพร้อมเพย์จะให้บริการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
แต่หากธนาคารใดมีความพร้อม สามารถเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ซึ่งคาดว่าภายในเดือนตุลาคม 2559 จะเริ่มใช้บริการพร้อมเพย์ได้ โดยประชาชนสามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีได้ตลอดเวลา
สิ่งแรกที่ผู้ใช้บริการพร้อมเพย์ต้องทำ คือเลือกบัญชีเงินฝากที่ต้องการใช้เป็นบัญชีหลักในการรับเงิน โดยเตรียมเอกสาร 3 อย่าง เพื่อประกอบการลงทะเบียน คือสมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรประจำตัวประชาชน และโทรศัพท์มือถือที่ต้องการลงทะเบียน นี่เป็นกรณีที่ไปลงทะเบียนที่สาขาธนาคาร แต่ช่องทางการลงทะเบียนพร้อมเพย์มีอีกหลายช่องทาง เช่น ตู้เอทีเอ็ม และอินเทอร์เน็ต หรือโมบาย แบงกิ้ง
การผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือภายใต้บริการพร้อมเพย์ กำหนดให้บัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี มีหมายเลข ผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์ ทั้งนี้ หมายเลขที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน
การคิดค่าธรรมเนียมของพร้อมเพย์ จะไม่มีการแยกรายการเป็นแบบในเขต ข้ามเขต หรือรายการในธนาคารเดียวกันหรือต่างธนาคาร แต่จะอ้างอิงวงเงินในการโอนแต่ละครั้งเป็นหลัก ซึ่งมีโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากบริการโอนเงินในปัจจุบัน เช่น วงเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า หลังธนาคารบางแห่งเปิดให้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 100,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ยังไม่พบปัญหาใดๆ
นายปรีดี กล่าวว่า การให้บริการพร้อมเพย์ จะทำให้ค่าธรรมเนียมธนาคาร จากการทำธุรกรรมทางการเงินลดลง แต่ไม่กระทบต่อกำไรของธนาคาร ขณะเดียวกัน ต้นทุนการบริหารเงินสดของธนาคาร จะลดลงด้วย แต่เพื่อป้องกันปัญหาและความสับสนของประชาชน ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยได้ออกแบบคำถามและคำตอบในการให้ข้อมูลลูกค้า เพื่อชี้แจงไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ เช่น ข้อมูลในบริการพร้อมเพย์ถูกนำไปเก็บที่ใด ซึ่งข้อมูลจะเก็บไว้ในระบบกลางที่มีความปลอดภัยสูง และมีระบบสำรองที่มั่นคง