วันนี้ (5 ก.ค.2559) นายศราวุฒิ อารีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า การที่ไอเอสอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุโจมตีในหลายพื้นที่อาจเกี่ยวเนื่องกับการสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ทั้งในอิรักและซีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของไอเอสได้ถูกรัฐบาลอิรักคุกคืบเข้าไปได้มากขึ้น รวมถึงในซีเรียรัฐบาลก็รุกคืบเข้าไปในพื้นที่ของไอเอสได้มากขึ้นเช่นกัน
ฉะนั้นไอเอสจึงขยายการปฏิบัติการไปนอกพื้นที่มากขึ้นโดยจะเห็นการก่อการร้ายในประเทศกลุ่มประเทศมุสลิมมากขึ้นทั้งในซาอุดิอาระเบีย เลบานอน เยเมน และตุรกี
ทั้งนี้ หากพิจารณาสถิติการก่อเหตุรุนแรงของไอเอสตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา มีจำนวน 100 กว่าครั้ง สามารถแบ่งพื้นที่ตามภูมิศาสตร์ของโลกได้ 3 พื้นที่เช่นกัน คือ 1.พื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่จะเป็นเป้าในการโจมตีของไอเอส คือ กลุ่มประเทศมุสลิมทั้งในตะวันออกกลาง 2.กลุ่มประเทศในแถบยุโรปและมหาอำนาจทั้งหลายที่มีผลประโยชน์ในตะวันออกกลางเช่น ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และ 3.กลุ่มประเทศมุสลิมที่ไม่ใช่มุสลิมซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและไม่มีผลประโยชน์กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งไทยอาจจะอยู่ในกลุ่มนี้ซึ่งมีความเสี่ยงในการถูกโจมตีจากกลุ่มไอเอสน้อยที่สุด