ภายหลังที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ H1N1 ในเรือนจำ จ.นราธิวาส จนทำให้มีเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวนมากและยังทำให้ผู้ต้องขังเสียชีวิต 2 คน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนโรคเข้าควบคุมสถานการณ์แล้วนั้น
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการพบผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2559 หลังจากนั้นก็มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนขึ้น จึงมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส สำนักควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ส่งทีมสอบสวนโรคเข้าไปดำเนินการคัดกรอง
จากการสอบสวนโรคได้เก็บตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยจำนวน 7 คน ส่งตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา โดยผลยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ H1N1 และส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาล 9 คน เนื่องจากมีอาการหอบเหนื่อย ไข้สูงและบางคนมีโรคประจำตัว
ส่วนการรักษาแพทย์จ่ายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ให้ผู้ป่วย 310 คน รวมถึงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ 28 คนและนักโทษกลุ่มเสี่ยง 72 คน พร้อมสนับสนุนเจลล้างมือ20 ขวด, ชนิดพกพา 24 หลอด, ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 3,000 เม็ด, หน้ากากอนามัย 4,000 ชิ้น, ถุงมือ 6 กล่อง และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 30 โดส
ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยพบว่าผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวนลดลง แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดโดยกำชับให้ทุกสถานบริการรายงานเข้าระบบเฝ้าระวังเพื่อตรวจจับการระบาด นอกจากนี้จะต้องทำความสะอาดพื้นที่ภายในเรือนจำทุกวัน
ด้านนายสุทธิศักดิ์ ร่าหมาน ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส เปิดเผยว่า ทางเรือนจำได้คัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว จำนวน 8 คน แยกออกไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อมาได้มีผู้ต้องขัง 2 คนใน 8 คน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจริง แต่สาเหตุมาจากโรคประจำตัว ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัด H1N1 แต่อย่างใด
พร้อมยอมรับว่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ดังกล่าวจริง โดยหลังจากทราบผลตรวจจากเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่ 12 จังหวัดสงขลา ก็ได้คัดกรองผู้ติดเชื้อแยกออกไปกักขังต่างหาก เพราะเกรงว่าจะมีการระบาดเพิ่ม โดยใช้วิธีการให้ยาต้านเชื้อและมีทีมแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดูแลรักษาและควบคุมโรคไม่ให้ระบาดภายในเรือนจำ
โดยในช่วงที่แพร่ระบาดได้คัดกรองผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ จำนวน 1,649 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขัง 1,611 คนและเจ้าหน้าที่ 38 คน พบผู้ป่วย 379 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องขัง 375 คนและเจ้าหน้าที่เรือนจำ 4 คน โดยขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังเหลือผู้ต้องขังที่ส่งไปรักษาโรคประจำตัวและเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสอีก 2 คน