วันนี้ (8 ส.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประกาศผลการออกเสียงประชามติอย่างไม่เป็นทางการ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีความคึกคักขึ้นทันที โดยเปิดตลาดในช่วงเช้า ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นทันที 20.48 จุด และแม้จะมีแรงขายสลับเข้ามา แต่ยังคงอยู่ในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 11.15 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,535.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,567 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ประเมินว่าหากประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญถือว่ามีความชัดเจน เเละส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น
ขณะที่นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ภาพรวมการเมืองจะชัดเจนมากขึ้น แต่ไม่สามารถชี้วัดทิศทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นจะขยายตัวตามภาพดังกล่าว เพราะขึ้นอยู่หลายปัจจัยและต้องติดตามทิศทางการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจมากกว่า โดยเฉพาะด้านไอทีและนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลการลงประชามติช่วยให้เอกชนลดความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในครึ่งปีหลัง และมีเงินไหลเข้าผ่านตลาดหุ้น แต่ไม่ควรชะล่าใจกับปัจจัยบวกในประเทศ เพราะยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศอยู่
ส่วนผลการลงประชามติที่มีความแตกต่างกันในภูมิภาคทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สะท้อนถึงความขัดแย้งในสังคมยังมีอยู่ และไม่ใช่ปัจจัยใหม่ที่นักลงทุนต่างรับทราบดีอยู่แล้ว จึงไม่เชื่อจะกระทบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ