วันนี้ (16 ส.ค.2559) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานสภาพน้ำท่วมในตัวเมือง จ.น่าน ว่าแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายแล้ว หลังยอดน้ำสูงสุดไหลผ่านไปเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เช้าวันนี้ หลายหน่วยงานยังมีภารกิจเร่งสูบน้ำและฟื้นฟูความเสียหายในพื้นที่เศรษฐกิจและโบราณสถาน
ยอดน้ำสูงสุดที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองน่านเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ตลอดทั้งคืนและเช้าวันนี้ น้ำไหลทะลักเข้าท่วมเขตพื้นที่เศรษฐกิจพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะริมแม่น้ำน่าน น้ำท่วมสูง 1.30 เมตร ส่งผลให้น้ำท่วม 17 ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง และหนักที่สุดคือชุมชนภูมินทร์ทาลี่ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่โดยรอบเขตเมืองระดับน้ำท่วมสูง 30-40 เซนติเมตร ร้านค้ายังคงปิดให้บริการ ส่วนโรงเรียน 8 แห่งประกาศปิดทำการ
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เร่งตรวจสอบเขตพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองน่าน เพราะกลัวว่าหากน้ำท่วมนานจะกระทบกับเศรษฐกิจ และกระทบวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี ซึ่งอาจจะทำให้ฐานรากของโบราณสถานและโบราณวัตถุเสียหายได้
นายสุรพล เธียรสูตร กล่าวว่าน้ำท่วมน่านครั้งนี้รุนแรงในรอบ 10 ปี โดยเกือบเทียบเท่าปี 2549 ที่เคยวัดระดับน้ำน่านได้ 8.47 เมตร ขณะที่ปี 2559 วัดระดับน้ำได้ 8.35 เมตร แม้จะยังไม่ทำลายสถิติแต่ก็ทำให้น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง
สำหรับความเสียหายในครั้งนี้ น้ำทะลักเข้าเขตเทศบาลเมืองไม่มากเนื่องจากมีกำแพงกั้นน้ำ ขณะเดียวกันมีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมขนของขึ้นที่สูงล่วงหน้า 15 ชั่วโมง จึงทำให้ความเสียหายมีไม่มาก
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีชาวบ้านบางส่วนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ลักลอบรื้อแนวกระสอบทรายออกจึงทำให้น้ำไหลเข้าพื้นที่เมือง
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้ จ.น่าน ยังคงระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ในเขตเทศบาลเมืองน่านจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็น เนื่องจากยอดน้ำสูงสุดไหลผ่านไปยัง อ.เวียงสา พื้นที่รับน้ำต่อไปของจังหวัดน่านแล้ว
ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ประกาศให้ 7 อำเภอใน จ.น่าน เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์สาธารณภัยประจําวันว่า จ.น่าน เกิดฝนตกหนักมีน้ำไหลหลากและดินถล่มในพื้นที่ 7 อำเภอ คือ อ.สันติสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง อ.ท่าวังผา อ.ปัว อ.ภูเพียง และ อ.บ่อเกลือ ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 4,009 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คนคือ นายประสิทธิ์ วังสาร อ.ปัว ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง
ขณะที่กรมทรัพยากรธรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไป พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา และตาก เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2559 โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย อ.บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ เวียงสา เชียงกลาง ท่าวังผา นาน้อย นาหมื่น ปัว สันติสุข และแม่จริม จ.น่าน
รวมทั้งให้เฝ้าระวังพื้นที่เสียงภัย ดังนี้
อ.เมือง ปาย ปางมะผ้า ขุนยวม สบเมย แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
อ.แม่ระมาด ท่าสองยาง แม่สอด จังหวัดตาก
อ.แม่แจ่ม แม่วาง แม่แตง อมก๋อย เวียงแหง เชียงดาว จ.เชียงใหม่
อ.แม่สาย เวียงแก่น แม่จัน แม่ลาว แม่สรวย เวียงป่าเป้า เชียงของ จ.เชียงราย
อ.ปง เชียงค้า จุน จ.พะเยา
เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 150 มิลลิเมตรและระดับน้ำในลําคลองเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มมีน้ำหลากในบางพื้นที่แล้ว อาจทําให้เกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากได้
ภาพ : จิราพร คำภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส