วันนี้ (19 ส.ค.2559) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และข้อหากระทำการอั้งยี่ ซ่องโจร รวม 15 คน ถูกทหารควบคุมตัวจากเรือนจำพิเศษมณพลทหารบกที่ 11 กรุงเทพมหานคร มาที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งข้อหา ในจำนวนนี้มีบางคนที่มีความผิดเฉพาะตัวในข้อหาอื่นด้วยอาทิ มีอาวุธสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสืบสวนพบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหามาสักระยะแล้ว ซึ่งทั้งหมดมี 17 คน ร่วมเคลื่อนไหวรวมตัวเพื่อต่อต้าน ล้มล้างการปกครองของรัฐบาล และศาลทหารออกหมายจับทั้งหมดแล้ว ซึ่งมีผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว
"กลุ่มบุคคลที่ถูกออกหมายจับได้มีการนัดหมายประชุม แลกเปลี่ยนความเห็นในหลายสถานที่ ทั้งใน จ.นนทบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และพัทลุง ต่อเนื่องกัน" พล.ต.ต.ชยพล กล่าว
พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้เข้าร้องทุกข์กับตำรวจ ระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงติดตามพบความเคลื่อนไหวกลุ่มนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ดำเนินการแบบคอมมิวนิสต์
"กลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่ม นปช.บางส่วน ที่ไม่พอใจกับกลุ่ม นปช.ส่วนกลาง กลับมาตั้งตัวเอง และมีนโยบายเคลื่อนไหวแบบพรรคคอมมิวนิสต์" พ.อ.บุรินทร์ กล่าว
สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 17 คนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้น และควบคุมตัว มีการตรวจพบอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งด้วย แต่ในทางการสืบสวนของตำรวจและทหาร มีความชัดเจนตรงกันคือทั้ง 17 คน เป็นกลุ่มที่รวมตัวเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น ไม่พบความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด เหตุวางเพลิง ไปจนถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เกิดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ปฏิเสธที่จะชี้ชัดว่า กลุ่ม นปป. เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับฝ่ายใด เพราะอาจกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนเพื่อย้ำในข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น หลังจากเบื้องต้นนั้น มีข้อมูลทางด้านการข่าว ระบุได้ว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มใด และมีการเคลื่อนไหวใต้ดินในลักษณะเข้าข่ายเป็นรัฐซ้อนรัฐ