พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ ม. 44 สั่งพักงาน "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์-นพ.เปรมศักดิ์"

การเมือง
25 ส.ค. 59
14:02
2,718
Logo Thai PBS
พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ ม. 44 สั่งพักงาน "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์-นพ.เปรมศักดิ์"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

วันนี้ (25 ส.ค.2559) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 50/2559 ลงวันที่ 25 ส.ค.2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 โดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางรายซึ่งเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ ขององค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมาย มูลกรณีเป็นเรื่อง เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีพฤติกรรมซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ

คำสั่งดังกล่าวระบุว่า แม้ผลการตรวจสอบหรือการสอบข้อเท็จจริงในขณะนี้ ยังไม่อาจสรุปความผิดได้ แต่ถือว่าเป็นเรื่องสําคัญอยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการดําเนินการไปแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเคยมีคําสั่งให้ใช้มาตรการชั่วคราวในลักษณะเดียวกัน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาในการชี้แจง พิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างโปร่งใสไม่เป็นที่ครหา และเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชน ตลอดจนเพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อราชการแผ่นดิน

"อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้


"ข้อ 1 ให้หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระงับการปฏิบัติราชการ หรือหน้าที่ในกรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราวโดยยังไม่พ้นจากตําแหน่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนี้
ข้อ 2 ให้นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อําเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่เป็นการชั่วคราวโดยยังไม่พ้นจากตําแหน่ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนในระหว่างนี้
ข้อ 3 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายซึ่งดําเนินการตรวจสอบ หรือสอบข้อเท็จจริงบุคคลตามข้อ 1 และ ข้อ 2 อยู่แล้ว ยังคงดําเนินการต่อไป ในกรณีพบว่าไม่มี การกระทําความผิดหรือมีการกระทําความผิดหรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้อื่นเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดนั้นด้วย ให้หน่วยงานที่ตรวจสอบรายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหรือเปลี่ยนแปลงคําสั่งหรือมีคําสั่งเพิ่มเติมต่อไป การรักษาการแทนผู้ดํารงตําแหน่งตามข้อ 1 และข้อ 2 ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่นายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นประการอื่น

ข้อ 4 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ทั้งนี้มีรายงานว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เดินทางไปราชการที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 25-28 ส.ค.2559 เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างกรุงเทพมหานคร-กรุงโซล 

ประเด็นตรวจสอบ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์-นพ.เปรมศักดิ์

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถูกตรวจสอบเรื่องโครงการไฟประดับที่ลานคนเมือง ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินสรุปผลการตรวจสอบโครงการนี้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์และผู้รับผิดชอบโครงการรวม 9 คน กระทำผิดระเบียบและกฎหมาย แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยืนยันว่านโยบายนี้เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส แลละไม่เคยสั่งให้ใครทำอะไรผิดกฎหมายแม้แต่ครั้งเดียว

โครงการไฟประดับของ กทม.จัดขึ้นที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.2558-31 ม.ค.2559 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบประมาณสูงเกินจริง ซึ่งมีบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เป็นรองหัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในบุคคลที่ออกมาตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของโครงการดังกล่าว จนนำสู่การตรวจสอบของ สตง.ในที่สุด

ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์ ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้สื่อข่าวใน จ.ขอนแก่น คาดว่าเนื่องจากไม่พอใจที่นำข่าวว่าเขามีความสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2559 ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน

"นพ.เปรมศักดิ์" ระบุน้อมรับคำสั่ง

หลังจากรับทราบคำสั่งดังกล่าว นพ.เปรมศักดิ์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า พร้อมน้อมรับคำสั่งตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

"ตามที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า แม้ผลการตรวจสอบกรณีที่ผมถูกกล่าวหายังไม่อาจสรุปความผิดได้ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีการดำเนินการสอบสวนไปแล้วระดับหนึ่ง และเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง พิสูจน์ความบริสุทธิ์ย่างโปร่งใส ไม่เป็นที่ครหา และเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชน นั้น ก็ถือว่า เป็นคำสั่งที่ชอบแล้วทุกประการ" นพ.เปรมศักดิ์ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง