วานนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป้องกัน และ บรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าสำรวจความเสียหายในพื้นที่ ต.บ่อถ้ำ และ วังชะพลู อ.ขาณุวรลักษบุรี หลังฝนตกหนักหลายชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่รวมกว่า 10 หมู่บ้าน ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง นอกจากนี้ยังมีไร่มันสำปะหลัง และ นาข้าว ได้รับความเสียหายประมาณ 1,000 ไร่ ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ชาวบ้าน ยังคงเฝ้าระวังน้ำที่อาจท่วมซ้ำ หากมีฝนตกหนักอีก
เช่นเดียวกับที่จ.นครสวรรค์ เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมชุมชน ในต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองบอนใต้ น้ำป่าหลากเข้าท่วมสูงกว่า 30 เซ็นติเมตร โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน 1 วัน เพื่อระดมครู นักเรียน และ ชาวบ้าน ทำความสะอาดโรงเรียน
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ หลังฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะชุมชนกาดก้อมซึ่งเกิดน้ำท่วมขังซ้ำซากทุกปี
นายปวิณ ชำนิประสาท ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สำรวจและเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยโดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่จ.พิจิตร ฝนที่ตกสะสมทำให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนหมู่ที่ 8 ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร จำนวน 9 หลัง สูง 80 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงไว้ที่สูง และใช้เรือในการสัญจรเข้า-ออกบ้าน เพราะถนนถูกน้ำท่วม ขณะนี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก
ชาวเรือในแม่น้ำโขงต้องผูกเรือและคลุมผ้าใบของเรือไว้ เพื่อไม่ไห้ได้รับความเสียหายจากน้ำหลากหรือฝนที่ตกหนักในระยะนี้ หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพิ่มสูงขึ้น วัดระดับน้ำที่วัดได้ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน สูงเกือบ 6 เมตร แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเพราะจีนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนลงมามากขึ้น ประกอบกับมีฝนตกหนักทางตอนเหนือ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิดแล้ว