"เจ้าเขียว" งูอนาคอนด้าที่ผ่าตัดเนื้องอกตายแล้ว

สังคม
27 ส.ค. 59
10:55
4,005
Logo Thai PBS
"เจ้าเขียว" งูอนาคอนด้าที่ผ่าตัดเนื้องอกตายแล้ว
งูอนาคอนด้าที่ได้รับการผ่าตัดเนื้องอกที่หัวใจจากทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ตายหลังจากผ่าตัดประมาณ 72 ชั่วโมง จากการมีเลือดออกจากหลอดเลือดใหญ่บริเวณที่ผ่าตัด

วันนี้ (27 ส.ค.2559) จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของ น.สพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถึงการผ่าตัดเนื้องอกงูอนาคอนด้า ที่มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม บริเวณหัวใจ โดยทีมสัตวแพทย์ใช้เวลาผ่าตัด 6 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จนทำให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาตรวจสอบงูอนาคอนด้าตัวนี้ว่าได้นำเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์งูอนาคอนด้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ล่าสุด เมื่อวานนี้ 26 ส.ค.59 เวลาประมาณ 17.00น. น.สพ.ทวีศักดิ์ ได้โพสข้อความบนเฟสบุ๊กว่า "เจ้าเขียว" งูอนาคอนด้าที่ได้รับการผ่าตัดเนื้องอกที่หัวใจตายแล้ว เมื่อวันที่ 24 ส.ค.หลังจากการผ่าตัดได้ประมาณ 72 ชั่วโมง จากการมีเลือดออกจากหลอดเลือดใหญ่บริเวณที่ผ่าตัด

น.สพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา ระบุว่า “สวัสดีครับทุกๆท่านที่ติดตามข่าวอนาคอนด้าในครั้งนี้ ผมอยากแจ้งข่าวที่น่าเสียใจว่า"เจ้าเขียว"จากไปแล้วตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาหลังจากการผ่าตัดได้ประมาณ 72ชั่วโมง สาเหตุจากการมีเลือดออกจากหลอดเลือดใหญ่บริเวณที่ผ่าตัดยกเนื้องอกออกครับ แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทางทีมรักษาได้ทำการปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่าย และมีความเห็นว่าการแจ้งข่าวการตายในขณะที่ยังเป็นข่าวและอยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อมวลชน ยิ่งจะทำให้เป็นการโหมกระแสให้มีประเด็นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่มีข่าวว่า"เจ้าเขียว"จะถูกทางกรมวนอุทยานตรวจสอบ ซึ่งถ้าข่าวลักษณะนี้แพร่ออกไปอาจทำให้เกิดข้อสงสัยจากสังคมว่าเจ้าเขียวตายจริงหรือแค่หนีการตรวจสอบจากกรมวนอุทยานกันแน่ แต่เมื่อมีความชัดเจนในแง่ของกฏหมายเรียบร้อยแล้ว จึงเห็นว่าถึงเวลาที่จะแจ้งข้อเท็จจริงแก่สังคมได้รับทราบ นอกจากนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการดำเนินการชันสูตร และส่งตัวอย่างตรวจไปยังสถาบันการศึกษาทันที ซึ่งก็ได้แจ้งกับทางสถาบันโดยตรงว่าเจ้าเขียวตายแล้ว และเจ้าของเขียวก็รับทราบอาการของเจ้าเขียวมาโดยตลอดและรับทราบการเสียชีวิตตั้งแต่แรกแล้ว และไม่ได้มีการปกปิดการตายในครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์อย่างที่มีคนกล่าวอ้างขึ้นมา เพราะถ้าหากคิดจะปกปิดจริงคนเหล่านั้นย่อมไม่มีทางจะรู้ได้อย่างแน่นอน ในทางกลับกันคนที่ออกมาพยายามทำให้สังคมรับรู้โดยไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงและสาเหตุที่แน่ชัด มีเพียงความอคติที่บดบังหัวใจที่มืดบอดทำให้ไม่สามารถคิดได้อย่างถี่ถ้วนนั่นเอง”

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง