เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.2559) พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขของฝ่ายไทย ไปพบกับกลุ่มมาราปาตานีเพื่อหารือถึงแนวทางการพูดคุย โดยนายกฯ ให้นโยบายไปว่า ต้องยุติความรุนแรงให้ได้ก่อน การพูดคุยสันติสุขถึงจะเดินหน้าต่อไปได้
นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหนึ่งในการพูดคุยคือความไม่มีเอกภาพของกลุ่มมาราปาตานี ทำให้ความรุนแรงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับอธิบายว่ากระบวนการพูดคุยสันติภาพในหลายประเทศต้องใช้เวลานาน กระบวนการพูดคุยเพื่อยุติความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยก็เช่นเดียวกัน
"มอบหมาย พล.อ.อักษราไปพูดคุยว่าจะเอายังไงกันต่อ แต่ประเด็นของผมก็คือจะต้องยุติความรุนแรงให้ได้เสียก่อน จะทำอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที ซึ่งก็ได้มอบนโยบายของผมในการพูดคุยไปแล้วว่าจะต้องยุติความรุนแรงให้ได้ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นเราต้องทำตามเขาจนถึงเมื่อไหร่" นายกฯ กล่าว
"ผมเคยยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีปัญหาในลักษณะนี้ เขาใช้เวลาแก้ปัญหาตั้ง 50 ปีนะ พูดคุยกันเป็น 100 ครั้งยังไม่จบเลย ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่จริงใจต่อกันมันก็แก้ปัญหาไม่ได้ รัฐบาลจริงใจทุกอย่าง ปัญหาคือคนที่มาพูดคุยกับเราเขาเป็นกลุ่มเดียวกันหรือเปล่า มีทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายการทหารเยอะแยะไปหมด มีหลายกลุ่ม กลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ถามว่าเขารวมกันได้หรือยัง มันต้องรวมกันมาเป็นกลุ่มเดียวจะได้คุยกันทีเดียวรู้เรื่อง"
การพูดคุยสันติสุขระหว่างกลุ่มมาราปาตานีหยุดชะงักไปนานกว่า 4 เดือน นับตั้งแต่การพูดคุยเต็มคณะอย่างไม่เป็นทางการครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2559 เนื่องจากฝ่ายไทยยังไม่ลงนามในกรอบการพูดคุยสันติสุข (ทีโออาร์) กับฝ่ายมาราปาตานี ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานว่าคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในทีโออาร์ร่วมกันในเบื้องต้นแล้ว จึงได้นัดพูดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.นี้ โดยมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก
แต่หลังจากเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิวใน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บนับสิบคน หลายฝ่ายจึงตั้งข้อสังเกตว่าการกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งของทั้งสองฝ่ายอาจถูกเลื่อนออกไป
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์หลังจากเดินทางกลับจากการเยือนประเทศมาเลเซียตามคำเชิญของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.2559) ว่า การพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ระหว่างไทยกับมาราปาตานีจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ย.ตามกำหนดเดิม
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังเปิดเผยด้วยว่า ได้หารือกับฝ่ายมาเลเซียถึงการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ของไทย ซึ่งส่วนหนึ่งคือการแก้ปัญหาเรื่องคน 2 สัญชาติ รวมถึงการดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยทางฝ่ายมาเลเซียและไทยตกลงจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เรื่องการสร้างรั้วตามชายแดนไทย-มาเลเซียระหว่างการเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันที่ 9 ก.ย.2559
ขณะที่มีรายงานจากสำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียว่า ระหว่างการเยือนมาเลเซียของพลเอกประวิตรครั้งนี้ ฝ่ายไทยรับปากจะส่งผู้ต้องหาคดีคดีค้ามนุษย์จำนวน 10 คน ให้กับทางการมาเลเซียด้วย
สำนักข่าวเบอร์นามาอ้างคำพูดของนายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดิ รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียว่าผู้ต้องหา 10 คนนี้มีอายุระหว่าง 35-60 ปี เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่มีการพบหลุมฝังศพจำนวนมากในรัฐเปอร์ลิสของมาเลเซียเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทยบอกกับเบอร์นามาว่าในจำนวน 10 คนนี้ บางคนถูกจับกุมแล้ว แต่บางคนยังอยู่ระหว่างการหลบหนี