วานนี้ (9 ก.ย.2559) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชี้แจงก่อนรับฟังคำชี้แจงจากตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงการยกร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ว่าหลังพิจารณาเบื้องต้นถึงเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ กกต.ส่งให้ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปบางส่วน กรธ.จึงต้องสอบถามถึงเหตุผล ซึ่งจะเปิดรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ส่วนเนื้อหาของร่างที่ กกต.จัดทำขึ้น โดยเพิ่มความยากต่อการจัดตั้งพรรคการเมืองที่ใช้เกณฑ์สมาชิกครบทุกภาคหรือใช้เกณฑ์ร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต ที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งพรรคการเมืองของประชาชน เชื่อว่า เพื่อไม่ให้กลุ่มบุคคลจัดตั้งพรรคขึ้นเพื่อมาขอเงินอุดหนุนพรรคจาก กกต.เท่านั้น แต่ในฐานะ กรธ.ต้องพิจารณาถึงความพอดี ที่เหมาะสมต่อการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ที่ประชาชนจะจัดตั้งได้
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นตัวแทนกรรมการการเลือกตั้ง ที่เข้าชี้แจงถึง 3 หลักการของการที่ กกต.ยกร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง คือการสร้างพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันที่เข้มแข็ง เช่นการกำหนดให้มีการจ่ายค่าบำรุงพรรคของสมาชิก การให้พรรคการเมืองคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีคุณภาพด้วยการให้สาขาพรรคมีส่วนร่วม แทนการกำกับโดยนายทุน และการทำให้นโยบายพรรคการเมืองเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ด้วยการกำหนดให้พรรคการเมือง ต้องส่งรายละเอียดของนโยบายหาเสียงให้ กกต.ดูก่อน ทั้งประเด็นที่มางบประมาณ ระยะเวลา และความคุ้มค่า พร้อมยอมรับว่า กรธ.แสดงความกังวลว่า สิ่งที่ กกต.เสนอ อาจตึงหรือหย่อนจนเกินไป เช่นการให้พรรคการเมืองต้องส่งรายละเอียดของนโยบายหาเสียงมาให้ กกต.ดูก่อน ซึ่งอาจทำให้พรรคการเมืองดำเนินการลำบาก โดย กรธ.จะรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน แต่นายสมชัย ระบุว่า กรณีของการฟังความเห็นจากพรรคการเมือง ต้องเป็นลักษณะ ฟังหู ไว้หู เพราะถือว่า เป็นผู้มีส่วนได้เสีย