เตือนภาคเหนือ-อีสาน เตรียมรับมือพายุโซนร้อน "ราอี" คืนนี้

ภัยพิบัติ
13 ก.ย. 59
12:54
329
Logo Thai PBS
เตือนภาคเหนือ-อีสาน เตรียมรับมือพายุโซนร้อน "ราอี" คืนนี้
หลายจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมรับมือฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโซนร้อน "ราอี" ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามในวันนี้ (13 ก.ย.) และเคลื่อนเข้าภาคอีสานตอนกลางของไทย คืนนี้

วันนี้ (13 ก.ย.2559) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุโซนร้อน "ราอี" (Rai) บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ฉบับที่ 10 โดยระบุว่า พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "ราอี" (Rai) แล้ว คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทยในคืนนี้ (13 ก.ย.) โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือ จ.พะเยา ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากลำน้ำร่องช้าง ในอ.ดอกคำใต้ ยังคงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ และขยายวงกว้าง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ มีบ้านกว่า 2,000 หลังถูกน้ำท่วมขังบางจุดสูงกว่า 1 เมตร โรงเรียน 5 แห่ง ต้องหยุดการเรียนการสอน ส่วนในเขตเทศบาลเมืองพะเยาน้ำจากลำน้ำแม่ต๋ำยังคงเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนแม่ต๋ำป่าลาน และแม่ต๋ำภูมินทร์ ถนนมีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร การสัญจรไปมาค่อนข้างลำบาก

อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ แม้สถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากลำน้ำแม่แจ่มล้นตลิ่งจะเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำแต่ชาวบ้าน 3 ตำบลยังคงเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม ที่อาจเกิดขึ้นจากพายุที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคเหนือ ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก เร่งเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และรถเคลื่อนที่เร็วเพื่อใช้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ล่าสุดมีรายงานฝนตกหนักในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน จ.ตาก

ส่วนพื้นที่ภาคกลางอย่าง จ.สุพรรณบุรี และจ.เพชรบุรี ต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่มีมากอยู่แล้วเริ่มมีปริมาณสูงขึ้นอีก ประกอบกับเขื่อนพลเทพ จ.ชัยนาท มีการระบายน้ำเพิ่ม เบื้องต้นได้ประกาศให้ประชาชน ในพื้นที่อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก และอ.ศรีประจันต์ ระวังน้ำไหลหลากในช่วง 2 วันนี้

ส่วนที่จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชลประทานเร่งเปิดทางลัดน้ำ ในลำห้วยสำราญ ที่ไหลผ่านตัวเมืองศรีสะเกษ เพื่อระบายน้ำที่สะสมจนท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านมานานกว่า 5 วัน และเพื่อรองรับอิทธิพลพายุโซนร้อนราอี ที่คาดว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก เช่นเดียวกับเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธ์ ปรับลดปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 4,700,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือ 3 ล้าน 9 แสนลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำ จากพายุโซนร้อนราอีได้เพิ่มขึ้น และป้องกันน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นทีการเกษตร

ส่วนที่ภาคใต้ชาวประมงพื้นบ้าน ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ กว่า 50 ลำ ต้องหยุดออกทะเล ทำประมงเนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรงต่อเนื่อง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ทั้ง 8 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.อ่าวลึก อ.ปลายพระยา พื้นที่ติดกับ จ.พังงา ให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักปริมาณน้ำฝนสะสม อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มได้ ในระหว่างวันที่ 13-19 ก.ย.นี้

เช่นเดียวกับนายสมเกียรติ อินทรคำ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง สั่งการไปยังศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ของแต่ละตำบลเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและช่วยเหลือประชาชน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง