ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Ballshi Shisha โพสต์บนเฟซบุ๊กวันนี้ (16 ก.ย.2559) ว่าได้ใช้บริการเรียกแท็กซี่จากแอพพลิเคชั่น Uber X จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังบ้านที่พุทธมณพล สาย 4 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. โดยได้ใช้บริการรถหมายเลขทะเบียน 5 กญ 765 ระหว่างเดินทางไประยะหนึ่ง คนขับเห็นว่ามีรถติดตรงทางลงมอเตอร์เวย์ ประกอบกับฝนตกคนขับอูเบอร์คันดังกล่าว มีท่าทีที่หงุดหงิดและบ่นว่าไม่คุ้ม
จนกระทั่งคนขับได้จอดรถข้างถนนและไล่ตนลงจากรถ พร้อมเขวี้ยงกระเป๋าเดินทางออกจากรถ แต่ผู้เสียหายได้บอกให้คนขับยกเลิกบัตรเครดิตที่จ่ายค่าบริการก่อน แต่ผู้ขับอูเบอร์ได้พุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกาย
หลังจากนั้นจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ร้องเรียนไปยังอูเบอร์เพื่อขอข้อมูลของคนขับประกอบในการแจ้งความ แต่ทางอูเบอร์อ้างว่าจะต้องส่งเรื่องไปยังอูเบอร์ที่ซานฟรานซิสโกก่อน และการขอข้อมูลดังกล่าวต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกรอกเอกสารด้วย
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เสียหาย ตั้งคำถามถึงมาตรการดูแลผู้ใช้บริการ ที่เจ้าหน้าที่ของอูเบอร์แจ้งว่าเป็นเพียงแอพพลิเคชั่นเท่านั้น และตั้งข้อสังเกตว่าอูเบอร์มีการตรวจสอบประวัติของผู้ขับอูเบอร์ก่อนหรือไม่
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.บริษัทอูเบอร์ไทยแลนด์ ได้ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนว่า อูเบอร์ได้ทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และได้ติดต่อผู้โดยสารรวมถึงได้มีการสอบสวนผู้ร่วมขับของอูเบอร์ เบื้องต้นอูเบอร์ได้ปิดบัญชีของผู้ร่วมขับแล้ว โดยยืนยันว่าอูเบอร์ไม่สนับสนุนพฤติกรรมที่ไม่สุภาพหรือรุนแรง ตามที่กำหนดในแนวทางการปฏิบัติของบริษัท และพร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการหมายเลขทะเบียนรถรวมถึงชื่อผู้ร่วมขับ จะต้องทำหนังสือถึงบริษัทอูเบอร์สำนักงานใหญ่ก่อน เนื่องจากเป็นนโยบายของทางบริษัทที่เป็นบริษัท
ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกต้องการให้ประชาชนใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ถูกกฎหมาย เนื่องจากจะได้รับการคุ้มครอง แต่กรณีของอูเบอร์เป็นการให้บริการที่ผิดกฎหมาย และที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกสั่งระงับการให้บริการ เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย เช่น ตัวรถและพนักงานขับรถไม่ได้ขึ้นทะเบียนประวัติการเป็นผู้ให้บริการรถสาธารณะรวมถึง อัตราการเก็บค่าบริการ และมีการจับปรับรถอูเบอร์ แต่ที่ผ่านมามีการร้องเรียนจำนวนไม่มาก โดยยืนยันว่า ไม่ได้กีดกันการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นแต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้กรมการขนส่งทางบกจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาลงโทษตามกฎหมายก่อนและจะมีการดำเนินการต่อ เนื่องจากเป็นการใช้รถผิดประเภท
ก่อนหน้านี้ บริษัทอูเบอร์ ได้พยายามหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมหลายครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายคือเดือนพฤษภาคม โดยอูเบอร์ขอให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาปรับแก้ไขกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก แต่การหารือไม่มีความคืบหน้า