ป็อปกวางตุ้ง “Cantopop” กลับมาฮิต ดนตรีสะท้อนความคิดเสรีภาพถูกลิดรอนในฮ่องกง

ไลฟ์สไตล์
6 ต.ค. 59
20:07
697
Logo Thai PBS
ป็อปกวางตุ้ง “Cantopop” กลับมาฮิต  ดนตรีสะท้อนความคิดเสรีภาพถูกลิดรอนในฮ่องกง
แม้จะถูกวัฒนธรรมจากจีนแผ่นดินใหญ่และเกาหลีใต้บดบังความนิยมไปมาก แต่วันนี้ “เพลงป็อปกวางตุ้ง” หรือ “Cantopop” กลับมาได้รับความนิยมในฮ่องกงอีกครั้ง ในฐานะบทเพลงที่บ่งบอกตัวตนคนฮ่องกง ซึ่งหวงแหนในวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นเดียวกับเสรีภาพในการแสดงออก

วันนี้ (6 ต.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาเพลงดัง Egg and Lamb ของ เซียะอันฉี นักร้องสาววงการ Cantopop ของฮ่องกง ช่วยกระตุ้นให้หนุ่มสาวกล้าแสดงออกทางความเห็น และไม่หวาดกลัวต่ออำนาจอันมิชอบ

บทเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจาก Twelve Years A Slave ภาพยนตร์ออสการ์ซึ่งถ่ายทอดชะตากรรมของเสรีชนที่ถูกจับไปเป็นทาส โดยเนื้อร้องเปรียบเปรยชะตากรรมของชาวฮ่องกง ที่ต้องทนกับนโยบายริดรอนเสรีภาพของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งถูกนำไปร้องอย่างแพร่หลายโดยกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในเหตุการณ์ปฎิวัติร่มในฮ่องกงเมื่อ 2 ปีก่อน

แต่เดิมเพลงป็อปกวางตุ้ง หรือ Cantopop เคยทำให้วงการเพลงฮ่องกงโด่งดังไปทั่วเอเชียช่วงยุค 80 จนถึงต้นยุค 90 ทั้งจากเพลงรักของศิลปินดังและซาวด์แทร็กหนังฮิต แต่ภาพจำของเพลงรักประโลมโลกและการถาโถมของวัฒนธรรมเคป็อป ทำให้ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนุ่มสาวลดความนิยมเพลง Cantopop ลง กลุ่มศิลปินฮ่องกงต้องหันไปแต่งเพลงจีนกลางเพื่อความอยู่รอด

แต่วันนี้ เพลง Cantopop กลับมาได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของฮ่องกงอีกครั้ง ในฐานะบทเพลงที่เป็นตัวแทนของผู้ใช้ภาษากวางตุ้งในฮ่องกง โดยมีแนวเพลงเปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นเพลงรักของหนุ่มสาว ได้กลายเป็นเพลงสะท้อนปัญหาสังคมและการเมืองมากขึ้น ทั้ง Raise Your Umbrellas เพลงสนับสนุนการปฎิวัติร่มเมื่อปี 2014 ที่โด่งดังจนได้รับการโหวตจากผู้ฟังในฮ่องกงให้เป็นบทเพลงแห่งปี

ขณะที่ศิลปินส่วนหนึ่ง นำปัญหาสังคมในฮ่องกงมาแต่งเป็นเพลงล้อเลียน จนกลายเป็นกระแสนิยม เช่น Chased By A Breast ซึ่งเล่าถึงหญิงสาวในที่ชุมนุม แต่ถูกจับกุมเพราะใช้หน้าอกทำร้ายเจ้าหน้าที่ และ Hard To Board ที่ถ่ายทอดความยากลำบากในการใช้รถไฟสาธารณะร่วมกับนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยต้นปีที่ผ่านมา (2559) ยังมีการจัดงานแจกรางวัลสำหรับเพลงล้อเลียนโดยเฉพาะอีกด้วย

บทบาทของศิลปิน Cantopop ในวันนี้ ยังเป็นกระบอกเสียงทางการเมืองให้กับชาวฮ่องกง เช่น เหอหวั่นซือ นักร้องสาวมาดเท่ ที่ถูกสปอนเซอร์ยกเลิกคอนเสิร์ตในเมืองจีน หลังจากมีท่าทีเป็นอริต่อรัฐบาลแดนมังกร

แต่เมื่อเธอหันมาจัดคอนเสิร์ตด้วยตนเองผ่านการระดมทุน ปรากฎว่าตั๋วคอนเสิร์ตทั้ง 4 รอบ ถูกแฟนเพลงในฮ่องกงกว้านซื้อจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้อนาคตของฮ่องกงจะเปลี่ยนแปลงเพียงไร แต่แฟนเพลงชาวฮ่องกงก็ยังคงมีความผูกพันต่อเพลง Cantopop ในฐานะบทเพลงที่สะท้อนความรู้สึกของชาวฮ่องกง ในวันที่พวกเขาถูกริดรอนเสรีภาพได้ดีที่สุด

การเขียนเพลง Cantopop นั้น ผู้ประพันธ์ต้องมีความช่ำชองทางภาษาอย่างมาก เนื่องจากภาษาจีนกวางตุ้งมีการผันวรรณยุกต์ไม่ต่ำกว่า 9 ระดับเสียง การใส่เนื้อเพลงให้เข้ากับทำนองจึงต้องใช้ฝีมือไม่น้อย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง